วันที่ 28 ส.ค. 2564 สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) เฟซบุ๊กไลฟ์ก่อนเริ่มกิจกรรม “Car Mob - Call Out” วันที่ 29 ส.ค.

โดย สมบัติ กล่าวว่า เป้าหมายครั้งนี้มีความชัดเจนมากคือ "มึงออกไป" ซึ่งการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบทุกครั้ง มีมวลชนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กิจกรรมคาร์ม็อบนั้น สอดคล้องต่อสถานการณ์ ซึ่งครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุด ก่อนจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสภา ก่อนจะเข้าสู่โมทของการไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างจริงจัง

สมบัติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังถือว่าเป็นการสะสมกำลัง ถึงเวลานั้นเราจะดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทนแรงด่าแรงขับไล่ได้หรือเปล่า

“ผมคิดว่าประยุทธ์อยู่ในสถานที่คนควรจดจำ ว่ามีประสิทธิภาพต่ำที่สุด ผมจึงเสนอให้เปลี่ยนชื่อสะพานควายเป็นสะพานประยุทธ์  และผมว่าควรมีการวิจัยว่าตั้งแต่ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี มีประชาชนตั้งชื่อลูกของตัวเองว่าชื่อประยุทธ์เพิ่มขึ้นหรือน้อยลงอย่างไร”

เขา กล่าวว่า “ผมคิดว่าการที่เราจะสร้างสะพานใหม่เพื่ออุทิศให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการสิ้นเปลือง ตัวแกก็สร้างหนี้มหาศาลแล้ว เราไม่ควรใช้งบประมาณอะไรให้มาก สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ซึ่งผมคิดว่าการเปลี่ยนชื่อสะพานควายเป็นสะพานประยุทธ์ ควายต้องยินดี เอาคำว่าควายออกแล้วเอาเปลี่ยนเป็นประยุทธ์แทน ซึ่งผมไปดูที่มาแล้วมันมีอยู่ 2 จุด 1 คือมีอยู่ตรง 4 แยก และตรงบีทีเอส ซึ่งผมคิดว่าเราต้องทำตรงนี้อย่างจริงจัง มันจะเป็นบทเรียนให้กับเผด็จการ เช่นเดียวกับวรนุช ซึ่งเป็นชื่อของเพศหญิง แต่เพศชายเราลองเรียกประยุทธ์ไหม ตัวเมียเรียกวรนุชตัวผู้เรียก พล.อ.ประยุทธ์”

ด้าน ณัฐวุฒิ กล่าวว่า การชุมนุม วันที่ 29 ส.ค. คือหมุดหมายและสัญญาณ หลังจากนั้นภายในไม่กี่วันเราจะชวนทุกคนพร้อมกันทั้งประเทศให้ออกมาแสดงพลังชุมนุมครั้งใหญ่ ประกาศเสียงดังๆทั่วกันเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์

“4 ครั้งที่ผ่านมาเราต้องการสื่อสารกับประชาชนมากกว่า และเมื่อถึงครั้งที่ 5 นี้ เราก็พร้อมแล้วที่จะสื่อสารกับ พล.อ.ประยุทธ์ตรงๆ โดยใช้แนวทางสันติวิธี ไม่บวก ไม่ลุย ไม่ปะทะ หลีกเลี่ยงพื้นที่เปราะบาง ไม่ใช่ว่ากลัว แต่การแสดงพลังเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นจุดใดก็ตาม”

ขณะเดียวกันเฟซบุ๊กไลฟ์ครั้งนี้มี ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมพูดคุยด้วย โดยกล่าวว่า สำหรับการร่วมชุมนุมวันที่ 29 ส.ค. ส่วนตัวจะมีรถคันใหม่ไปร่วมชุมนุม ซึ่งเหมาะสมแล้วกับคนที่ถูกตัดออกจากกองมรดกของเจ้าสัว ซึ่งจะต้องเปลี่ยนจากรถยนต์เป็นมอเตอร์ไซค์

ธนัตถ์ บอกว่า นอกจากนี้กลุ่มที่เคยชุมนุมกับ กปปส.ได้ส่งข้อความมาว่าจะไปร่วมชุมนุมด้วย ทั้งนี้ กลุ่มที่สังคมเรียกกันว่าไฮโซ ได้ส่งรูปรถมาให้ดูหลายคันแล้ว ถ้าผู้กำกับโจเห็นแล้วก็ต้องอายอย่างแน่นอน

ธนัตถ์ ยังบอกว่า ไม่มีอะไรสาหัสกว่าการไม่ทำอะไร แม้ดวงตาที่เสียไปก็ไม่สาหัสเท่าการไม่ทำอะไร อย่างไรก็ตาม คาร์ม็อบเป็นกิจกรรมที่ไร้ความเสี่ยง ดังนั้น ออกมาดีกว่าหรือให้กำลังใจกันทางโซเชียลมีเดีย เพราะประเทศชาติบอบช้ำที่สุด ขอความร่วมมือให้ช่วยกันทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ อย่าให้ประเทศชาติบอบช้ำมากกว่านี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องตัดสายสัมพันธ์กับเผด็จการ

 “แค่ผมใส่สูทลงไปเดินถนนก็เห็นดิ้นพล่านกันจะเป็นจะตาย ถ้าเปรียบเทียบความแรงแล้ว อันนี้ถือว่าเบามาก ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แค่แต่งตัวปกติของผม ผมซื้อกล้องมาตั้งใจจะเอาไปถ่ายสาวๆ ผมก็ไปถ่ายสาวๆ มันเป็นรสนิยมเป็นงานอดิเรก เมื่อก่อนผมเป็นนักดนตรี ผมแต่งเพลงไว้เตรียมจะปล่อยเพลง คุณก็หาว่าผมล้อเลียนอีก  ก่อนหน้านี้ผมยังลงเรียนเรือใบด้วยนะ ถ้าผมไปเล่นเรือใบคุณก็หาเรื่องผมอีก” ธนัตถ์ กล่าว