วันที่ 11 เม.ย. 2565 พนักงานอัยการ มีคำสั่งฟ้อง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากกรณีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน: ใครได้-ใครเสีย?” ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารวัคซีนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีลักษณะ “แทงม้าตัวเดียว” สั่งวัคซีนยี่ห้อเดียวคือแอสตราเซเนก้า ซึ่งทำให้ประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยงหากวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพหรือบริษัทส่งมอบวัคซีนล่าช้า
ภายหลังจากอัยการส่งฟ้อง ธนาธรถูกนำตัวไปที่ศาลอาญา รัชดา เพื่อฝากขัง โดยศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว วางเงินประกัน 90,000 บาท ซึ่งธนาธรได้ให้ความเห็นหลังได้รับการประกันตัว ว่ากรณีของตนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้กฎหมายทั้งมาตรา 112 มาตรา 116 และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและเห็นต่างจากผู้มีอำนาจ โดยนับตั้งแต่ก.ค.2563 ถึงปัจจุบัน มีผู้ถูกดำเนินคดี 112 จำนวนถึง 183 ราย
“ผมไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้าย ที่ถูกปิดปากโดยมาตรา 112 ทั้งที่การวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีนของผมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยความเป็นห่วงว่าคนไทยจะได้วัคซีนช้าเกินไปและไม่มีประสิทธิภาพ และเวลาก็พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง ตอนนี้วัคซีนที่ได้ผลที่สุดคือชนิด mRNA ไม่ใช่ไวรัลเวคเตอร์” ธนาธรกล่าว
นอกจากนี้ ธนาธรยังแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์โควิดในประเทศไทย ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง และจะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลังจากการเดินทางช่วงวันหยุดสงกรานต์ จนมีความเป็นไปได้ว่าวิกฤตโรงพยาบาลเต็มจะกลับมา และสถานการณ์เลวร้ายที่มีผู้นอนรอเตียงที่บ้านแบบช่วงปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้จะกลับมาอีกครั้ง
ในช่วงวิกฤตโควิดปีที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าได้ผลิตเครื่องออกซิเจนความเข้มข้นสูง หรือ O2P เพื่อแจกจ่ายตามศูนย์พักคอยและโรงพยาบาลขนาดเล็กทั่วประเทศมาแล้ว เพื่อบรรเทาวิกฤตเตียงเต็ม ให้ผู้ป่วยสามารถใช้เครื่องออกซิเจนพยุงอาการระหว่างการรอเตียงที่บ้านหรือศูนย์พักคอย และก่อนหน้านี้ธนาธรก็เคยผลิตห้องตรวจแรงดันลบสำหรับตรวจผู้ป่วยโควิดให้กับหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศ