นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมหารือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง (เมื่อ 26 เม.ย. 2562) ประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สำนักคณะกรรมการอาหารและยา กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการและกำกับดูแลการนำกระเทียมจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายแข่งขันกับกระเทียมที่ปลูกในประเทศ ที่ปริมาณนำเข้ามีมากขึ้นจนทำให้ผลผลิตภายในประเทศมีปัญหาด้านราคาและเกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้ ซึ่งการนำเข้าดังกล่าวมีทั้งการนำเข้าโดยผิดกฎหมาย และบางส่วนเลี่ยงการปฏิบัติตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด
โดยที่ประชุมเห็นควรให้ส่วนราชการจะต้องบูรณาการร่วมกันเพื่อให้การนำเข้ากระเทียมเป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนด เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการขายผลผลิตและช่วยผู้บริโภคให้ได้บริโภคกระเทียมที่มีคุณภาพ โดยจะเพิ่มความเข้มงวดในตรวจสอบการลักลอบนำเข้าตามตะเข็บชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน กำกับดูแลให้ผู้นำเข้าสำแดงราคากระเทียมนำเข้าที่สอดคล้องกับความเป็นจริงในตลาดเพื่อให้กระเทียมในประเทศสามารถแข่งขันราคาได้ รวมทั้งจะให้กรมศุลกากรใช้หนังสือขออนุญาตขนย้ายกระเทียมนำเข้าประกอบการตรวจปล่อยออกจากด่าน
นอกจากนี้ อย. จะเข้มงวดตรวจสอบสารตกค้าง/สารปนเปื้อนในกระเทียมนำเข้าที่หน้าด่าน รวมทั้งกำกับดูแลให้ผู้นำเข้าจัดเก็บกระเทียมนำเข้าตามสถานที่ที่ได้แจ้งไว้ตามการขออนุญาตนำเข้าและสั่งอาหารเข้ามาในราชอาณาจักร และ มกอช. จะพิจารณากำหนดมาตรฐานกระเทียมนำเข้า และการออกใบรับรองมาตรฐาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ผู้ผลิตและผู้บริโภคในประเทศต่อไป
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการขนย้ายกระเทียมนำเข้าที่มีการขนเข้า-ออก ทั้งทางบกและทะเล ในพื้นที่ 52 จังหวัด รวมทั้งการครอบครองและการจัดทำบัญชีคุมกระเทียมนำเข้าของผู้ประกอบการ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) อย่างต่อเนื่อง และได้ประสานให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีรายได้จากผู้รับจ้างนำเข้ากระเทียม เพื่อให้มีการจัดเก็บภาษีรายได้จากการจำหน่ายกระเทียมนำเข้าด้วย
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในยังได้ชี้แจงให้ผู้ประกอบการนำเข้าและรับฝากเก็บกระเทียมได้รับทราบแนวทางการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยในส่วนของการขออนุญาตขนย้าย กรมฯ ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขออนุญาตฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้อีกทางหนึ่ง และขอให้ผู้ประกอบการฯ ปฏิบัติตามกฎ/ระเบียบของส่วนราชการอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรมฯ จะได้ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป คาดว่าการบูรณาการร่วมกันในคราวนี้จะช่วยลดผลกระทบด้านราคาของเกษตรกรที่เกิดจากปัญหาการนำเข้ากระเทียมราคาต่ำมาจำหน่ายในประเทศได้ระดับหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :