ไม่พบผลการค้นหา
เครือข่ายท่อส่งน้ำมันใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ถูกแฮกเกอร์ใช้ 'แรนซัมแวร์' โจมตีระบบ คาดเป็นฝีมืออาชญากรไซเบอร์ต่างชาติ

บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ (Colonial Pipeline) ผู้ให้บริการเครือข่ายท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ระบบของท่อส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งใช้ขนถ่ายน้ำมันเบนซินและน้ำมันสำหรับเชื้อเพลิงอากาศยานจากชายฝั่งเท็กซัส มาสู่พื้นที่หลายรัฐฝั่งตะวันออกของประเทศไปจนถึงนครนิวยอร์กต้องถูกปิดลงชั่วคราว เนื่องจากถูกโจมตีโดยแรนซัมแวร์ (Ransomware) ซึ่งเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ 

การโจมตีนี้นับเป็นเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที อาจเกิดผลกระทบด้านความมั่นคงทางพลังงานโดยพื้นมลรัฐฝั่งตะวันออก

โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ระบุในแถลงการณ์อย่างคลุมเครือว่า ได้ปิดระบบท่อส่งน้ำมันความยาว 5,500 ไมล์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ถึง 45% ของการใช้พลังงานในรัฐฝั่งตะวันออก เนื่องจากระบบถูกความพยายามภายนอกแทรกซึมเข้ามาในระบบ

กรณีนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ โดยทำเนียบขาว สำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พร้อมรายงานต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยแหล่งข่าวระบุว่า การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์นี้อาจเป็นฝีมือของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่หลังใช้การโจมตีดังกล่าวเพื่อเรียกค่าไถ่ มากกว่าเป็นฝีมือจากการโจมตีของกองทัพไซเบอร์จากต่างชาติ แต่บางครั้งกลุ่มดังกล่าวก็มีความสัมพันธ์กับหน่วยงานด้านข่าวกรองของรัฐบาลบางประเทศเช่นกัน หรืออาจได้รับการว่าจ้างจากประเทศนั้นๆ ในการปฏิบัติการการโจมตี

สำหรับบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ เป็นบริษัทเอกชนในรัฐจอร์เจีย รับหน้าที่ดูแลระบบเครือข่ายท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ โดยสำหรับท่อส่งน้ำมันที่ถูกโจมตีไซเบอร์นี้ ทำหน้าที่ส่งน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน และปิโตรเลียมกลั่นชนิดอื่นๆ ถึง 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อัลเกิร์ด พิพิเคท (Algirde Pipikaite) ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ไซเบอร์ของศูนย์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Economic Forum ให้ความเห็นว่า กรณีที่เกิดกับเครือข่ายท่อส่งน้ำมันฝั่งตะวันออกนี้ แสดงให้เห็นถึงช่องโหว่ทางไซเบอร์ที่อาจสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงาน หากไม่มีการยกระดับความเข้มงวดด้านไซเบอร์

"หากไม่มีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เราอาจเห็นแนวโน้มการโจมตีระบบอุตสาหกรรมบ่อยขึ้น เช่นการโจมตีระบบท่อส่งน้ำมันและก๊าซหรือโรงบำบัดน้ำ" 

สอดคล้องกับบ็อบ แมคแนลลี (Bob McNally) อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายอาวุโสของทำเนียบขาว ชี้ว่า เหตุท่อน้ำมันที่ถูกปิดนี้นับว่าเป็นการหยุดชะงักด้านพลังานครั้งใหญ่ของประเทศ นับตั้งแต่ที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของซาอุดิอาระเบียถูกโดรนโจมตีเมื่อปี 2561 

ด้านบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทซัพพลายเออร์ด้านน้ำมันกำลังเร่งหาวิธีการรูปแบบอื่น จัดส่งน้ำมันไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดแคลนที่อาจเกิดขึ้น หลังการโจมตีที่ทำให้ท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ของประเทศต้องถูกปิด 

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่า เอกชนและหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหานี้ได้เมื่อใด ทั้งนี้ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกจากการที่แฮกเกอร์โจมตี SolarWinds บริษัทเอกชนผู้ให้บริการด้านเน็ตเวิร์กแก่หน่วยงานของรัฐบาลและภาคหลายแห่ง ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในกรณีนี้คือรัสเซีย กับกรณีที่สองคือการเจาะระบบเซิร์ฟเวอร์อีเมลของบริษัทไมโครซอ

ทั้งนี้ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสหรัฐฯได้รับผลกระทบจากข่าวการละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์ครั้งใหญ่สองครั้งนั่นคือการแฮ็ก SolarWinds ขนาดใหญ่ที่ทำลายเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลสหรัฐและภาคเอกชนหลายพันแห่งและถูกกล่าวหาอย่างเป็นทางการในรัสเซีย และการเจาะเซิร์ฟเวอร์อีเมลของไมโครซอฟท์ สร้างผลกระทบต่อองค์กรในสหรัฐอย่างน้อย 30,000 แห่ง รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่น และคาดว่าอาจเป็นฝีมือของนักรบไซเบอร์จากจีน

ที่มา AP , FT