ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ปาฐกถาพิเศษ 'กัญชงพืชเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน' พร้อมผลักดันนวัตกรรม งานวิจัย ศักยภาพผู้ประกอบการให้ปลูก แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ออกสู่ท้องตลาด และส่งออก สร้างรายได้ใหม่ให้กับคนไทย

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ 'พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถปลูก แปรรูปเฮมพ์ (กัญชง) เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ' และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง 'กัญชงพืชเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน' โดยมี นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกว่า 400 คน ร่วมงาน

อนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริมกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารยา มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยกเว้นสารสกัดจากกัญชงและบางส่วนของพืชกัญชง โดยไม่ต้องถูกควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพื่อให้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ยา สมุนไพร อาหาร และเครื่องสำอาง มีการจัดทำกฎกระทรวง เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) เพื่อใช้ประโยชน์ ในระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรม

โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกนำรายได้เข้าสู่ประเทศ สำหรับการประชุมครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเน้นการสร้างความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการ ภาคเกษตรกรรมอุตสาหกรรม สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎระเบียบหลักเกณฑ์ฉบับใหม่ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ เพื่อส่งเสริมการปลูกและการแปรรูปกัญชงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมกัญชงจากงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร (ต้นน้ำ) ผู้ประกอบธุรกิจ (กลางน้ำและปลายน้ำ) ได้แลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมองเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาดให้เป็นที่ต้องการในตลาดโลก

อนุทิน กล่าวต่อว่า ตนมีนโยบายให้ทุกกรม ส่งเสริมและสนับสนุนการนำกัญชาและกัญชงไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์ เนื่องจากมีสาร THC เด่น ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและทำให้เสพติด จึงต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น มีระบบติดตามและตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านยาเสพติด

ส่วนกัญชงนั้นสนับสนุนให้ใช้ในทางอุตสาหกรรม เนื่องจากมีสาร THC ในปริมาณน้อย แทบไม่มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีสาร CBD เด่น มีประโยชน์ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมสุขภาพ และเกือบทุกส่วนของกัญชงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งประเทศไทยมีภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการปลูกกัญชง ถือเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะสร้างรายได้และ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น