ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ เรียก ‘อธิบดีกรมบัญชีกลาง’ คุยแผนตัดเกรดบริษัทเอกชนรับงานโครงการรัฐ หลังเคสก่อสร้างถนนพระราม 2 ไม่เสร็จยืดเยื้อหลายสิบปี

วันที่ 4 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเรียก แพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง มาหารือ ก่อนเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศ ว่า เป็นการเรียกมาหารือเรื่องการดำเนินการตัดเกรดผู้รับเหมา อย่างที่เคยบอกไปว่าจะต้องมีการอัพเกรดบริษัทผู้รับเหมา แต่ถ้าผลงานไม่ดี และหากไม่มีการลดเกรดบริษัทเอกชนก็สบาย ฉะนั้นวันนี้ต้องมีการประเมินเกรด ซึ่งจะสอดคล้องกับกรณีการประเมินเกรดผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างถนนพระรามสอง สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถควบคุมผู้รับเหมา และให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ เพราะตนไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนกับโครงการก่อสร้างถนนที่ไม่เสร็จตามเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องไปดูแลส่วนนี้ด้วย ประเด็นนี้คือส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องโครงสร้าง


มองศึก 'ก.เกษตรฯ-ก.ทรัพย์ฯ' ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เศรษฐา กล่าวว่าจะต้องมีการหย่าศึกระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกรอบหรือไม่หลังล่าสุด วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. แจ้งความดำเนินคดีกับ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ไปถอนย้าย ส.ป.ก. ที่เขาใหญ่ ว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะประชุมเป็นการภายใน วันนี้ให้เอาเรื่องที่ดินทำกินประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ การทำเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ประเด็นกฎหมายและเรื่องการทับซ้อน จะต้องเอาแผนที่ทหาร 1:4,000 เป็นหลัก ตรงไหนเป็นที่ป่าต้องปล่อยให้เป็นที่ป่า ไม่ไปก้าวก่ายอยู่แล้ว และได้เน้นย้ำไปแล้วว่าทำอะไรต้องมีหลักการ ถ้าเกิดไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ผิด ก็ไม่มีการทะเลาะกัน การทะเลาะกันก็ดีเพราะจะได้ชำระล้างนโยบายว่าถ้าเราทำถูกต้อง ทำดี ก็จะได้หลุดไป ต้องสอบถามกันให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะไม่มีสิทธิ์ในที่ดินทำกินสักที และขอย้ำว่าต้องเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อถามย้ำว่า น่าจะจบศึกเรื่องนี้ได้หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาใหญ่อะไรแต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย



เผยแผนลุยต่างประเทศ 10 วัน

เศรษฐา เปิดเผยว่า วันนี้จะเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีประเทศอาเซียนเข้าร่วมหลายประเทศ จะมีการนัดหารือกันหลายเรื่องทั้งทวิภาคีกับผู้นำกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

ซึ่งประเด็นที่จะพูดคุย กลับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นเรื่องที่พูดคุยค้างกันอยู่ทั้งต่อเนื่องการอำนวยความสะดวกการเดินทางไปมาหาสู่ของทั้งสองประเทศ ,ฝุ่น PM 2.5 เรื่องพื้นที่ทับซ้อน

ขณะที่การพูดคุยกับมาเลเซีย ก็จะพูดคุยเรื่องการเปิดพื้นที่ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้ให้ค้าขายสะดวกมากขึ้น

ขณะเดียวกันออสเตรเลีย เป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทยจะมีการพูดคุย อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียจำนวนมากด้วย รวมถึงเรื่องแลกเปลี่ยนการศึกษาและเกษตรแม่นยำ

จากนั้นในวันที่ 6 มีนาคม จะเดินทางไปกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีและกล่าวสุนทรพจน์ในงาน International tourism Berlin (ITB) เป็นงานด้านการท่องเที่ยวเบอร์ลิน และช่วงบ่าย จะเดินทางต่อไปที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส พบปะกับ Volkswagen และจะพูดคุยนำฟอร์มูล่าวันมาจัดการแข่งขันในประเทศไทย รวมไปถึงเชิญชวนให้มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และจะได้พบปะพูดคุยกับเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมร่วมงานเทศกาล MIPIM ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอุตสาหกรรมการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างขนาดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไปที่เยอรมนีอีกครั้ง ซึ่งจะถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการและจะมีการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีของเยอรมันด้วย

ทั้งนี้เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 14 มีนาคม และในช่วง 4 โมงเย็นของวันเดียวกัน จะพบปะหารือ จีนา เรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า การเดินทางไปครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีการหารือเรื่องวีซ่าเชงเกน ,การเจรจาข้อตกลง FTAให้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม รวมจัดเตรียมสินค้าของไทยไปแสดงในต่างประเทศด้วย ซึ่งเรื่องการค้าขายถือเป็นเรื่องสำคัญ