ไม่พบผลการค้นหา
กกร.เสนอลดค่าไฟฟ้า-เพิ่มเงินคนละครึ่ง ช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรอบใหม่ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2564 โตน้อยลง

กลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ เชื่อว่าจะส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงการลงทุนลดลง รวมถึงภาคการผลิตและการส่งออกที่มีปัญหาจากตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ กกร. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวลดลงเหลือ  1.5-3.5% หากควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าขยายตัวได้ 2-4% เช่นเดียวกับประมาณการการส่งออกในปี 2564 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 3-5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 0.8-1%

ดังนั้นภาครัฐควรเร่งหามาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 และแนวทางการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการเร่งเรื่องงบประมาณช่วยเหลือ 2 แสนล้านบาท กำหนดวิธีการให้ชัดเจน เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นการต่ออายุโครงการคนละครึ่งและเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายต่อบุคคลเป็น 5,000 บาท จากเดิมที่ 3.500 และขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการต่อไปอีก 3 เดือน

ทั้งนี้เสนอให้ภาครัฐพิจารณามาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เช่น ลดค่าไฟ 5% รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงินอย่าง Asset Warehousing และ บสย. อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกันขอให้ควบคุมดูแลที่อยู่ของคนงานข้ามชาติให้เหมาะสมเพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรค และเร่งจับผู้กระทำผิดทั้งบ่อนการพนัน และการนำเข้าแรงงานข้ามชาติอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าของประเทศว่าปัญหาการแพร่ระบาดส่วนใหญ่มาจากคนสู่คน ไม่ใช่จากอาหารหรือสินค้าสู่คน 

นอกจากนี้ควรเร่งรัดเรื่องวัคซีน โดยเฉพาะการกำหนดเวลาและมีปริมาณที่เพียงพอ รวมถึงกำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ในการกระจายการขนส่ง ตลอดจนการจัดสรรกลุ่มคนที่จะได้รับวัคซีนก่อนหลังให้ชัดเจน และมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเร่งรัดการใช้และการเจรจาการค้าทวิภาคี และลงนามข้อตกลง RCEP