นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยในการลงพื้นที่จุดตรวจกวดขันจับปรับ ผู้ฝ่าฝืนจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้าสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ณ บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน ว่า วันนี้ ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตบางเขน ร่วมกับ สถานีตำรวจนครบาลบางเขน ตั้งจุดกวดขันรถจักรยานยนต์ที่กระทำผิดกฎจราจร ในส่วนของกรุงเทพมหานครได้กวดขันจับปรับเรื่องการขับขี่และจอดบนทางเท้า เนื่องจากบริเวณถนนพหลโยธินช่วงนี้ติดกับ BTS สถานีสะพานใหม่และตลาดยิ่งเจริญซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก อาจเกิดอันตรายกับผู้คนบนทางเท้าได้ โดยสำนักงานเขตบางเขนได้ทำการกวดขันพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกล้อง AI คอยตรวจจับควบคู่กันไป เช่น บริเวณพหลโยธิน 48 ทำให้ผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดลดน้อยลดจากที่ผ่านมา และต้องขอขอบคุณทาง สน.บางเขน ที่ทำงานร่วมกับ กทม. เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้มีการกวดขันรถจักยานยนต์บนทางเท้าจากปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมา 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ
- กลุ่มประชาชนทั่วไป
- กลุ่มไรเดอร์
โดยในส่วนของกลุ่มไรเดอร์ กรุงเทพมหานคร มี MOU ร่วมกับ 13 บริษัท กลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ สำนักงานเขต 50 เขต ได้ประชาสัมพันธ์และจัดประชุมทุก 3 เดือน และกลุ่มประชาชนทั่วไป ได้รับการประชาสัมพันธ์จากเจ้าหน้าที่เทศกิจ รวมถึงป้ายโฆษณาตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรณรงค์ไม่ให้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งสำนักงานเขตได้มีการกวดขันรถจักรยานยนต์บนทางเท้า อาทิ ยึดอายัดรถที่จอดบนทางเท้า ตั้งจุดกวดขันเปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 10 ธันวาคม 2567 มีจำนวนผู้กระทำผิดที่กวดขันได้ 5,135 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 598 ราย เปรียบเทียบปรับ 4,537 ราย เป็นเงิน 2,439,160 บาท
นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีกล้อง AI จับภาพผู้ฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ถึง 10 ธันวาคม 2567 โดยฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ออกคำสั่งปรับ 20,030 คดี มีผู้ชำระค่าปรับ 2,586 คดี เป็นจำนวนเงิน 566,870 บาท และกรุงเทพมหานครยังได้มีการส่งข้อมูลไรเดอร์ผู้กระทำความผิดขับขี่บนทางเท้า ผ่านกล้อง AI ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึง พฤศจิกายน 2567 ให้กับบริษัทที่ร่วม MOU เป็นจำนวน 7,692 ราย