ไม่พบผลการค้นหา
ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ มีอัตราที่พุ่งสูงขึ้นเร็วสุดในรอบ 4 ทศวรรษ หลังจากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นถึง 7% หากเทียบแบบปีต่อปีในเดือนธันวาคม หลังสหรัฐฯ กำลังมีอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่กลับมีอุปทานที่ขาดแคลน

เงินเฟ้อประจำปีของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน พุ่งสูงขึ้นถึง 6% มากกว่าการคาดการณ์เดิม 2% โดยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในครั้งนี้ อยู่ในระดับที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ปี 2525 ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบแล้ว สหรัฐฯ มีค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นถึง 4.1% แบบปีต่อปี ในขณะที่ค่าสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศปรับตัวพุ่งสูงขึ้นถึง 6.5% เปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อเมื่อ 10 ปีก่อนที่ 1.5%

อย่างไรก็ดี รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ราคาที่พุ่งสูงขึ้นของสินค้าและบริการต่างๆ อาจลดตัวลง ทั้งนี้ ราคาพลังงานของสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมที่ 0.4% หลังจากในตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาพลังงานของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นไปกว่า 30%

ทั้งนี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อรายงานราคาของสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้นว่ามัน “จำลองภาพว่าเรามีความคืบหน้าในการชะลออัตราราคาที่พุ่งสูงขึ้น” โดยไบเดนย้ำว่า “ยังมีอะไรต้องแก้อีกมาก” ก่อนระบุเสริมว่า “อัตราเงินเฟ้อเป็นความท้าทายระดับโลก ซึ่งปรากฏให้เห็นในทุกชาติพัฒนาแล้ว จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเพราะการระบาดใหญ่”

ในทางเดียวกัน องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ซึ่งมีสมาชิกจากประเทศขนาดเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ 30 อันดับแรกของโลกระบุว่า ชาติสมาชิกขององค์การกำลังเผชิญหน้าอยู่อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นสุดในรอบ 25 ปี นับจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงสุดเท่าที่เคยพบตั้งแต่ปี 2539

อัตราความต้องการบริโภคสินค้าและบริการในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีการมอบเงินช่วยเหลือจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนเกิดอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ความต้องการในการเดินทาง การซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้านตลอดระยะเวลาของการระบาด

แต่เดิมทีนักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ คาดว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญอยู่อาจจะลดน้อยลงเมื่อการระบาดเริ่มเบาบางลง แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเนื่องจากการระบาดยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกินความคาดหมาย ทั้งนี้ เจย์ โพเวลล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกเตือนว่า อัตราค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ หากเกิดขึ้นต่อเนื่องจะกลายเป็น “ ภัยคุกคามร้ายแรง” ต่อการฟื้นตัวในภาคแรงงานของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังพิจารณาการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยตลอดทั้งปี 2565 นี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการเพิ่มดอกเบี้ย 3 ครั้ง โดยอาจจะเริ่มมาตรการดังกล่าวเร็วที่สุดในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ เพื่อให้อัตราอุปสงค์และอุปทานในสหรัฐฯ เกิดความสมดุลกัน

ที่มา:

https://www.ft.com/content/563578d2-12de-4e5c-bada-90528cd69aaf

https://www.bbc.com/news/business-59969864

https://www.theguardian.com/business/2022/jan/12/us-inflation-rate-december-2021