ไม่พบผลการค้นหา
กรมบัญชีกลางจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการให้กับผู้มีสิทธิในจังหวัดสิงห์บุรีโดยตรงจำนวนกว่า 29,000 ราย เริ่มจ่ายเดือนแรกในวันที่ 9 ส.ค. 2562

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฯ National e-Payment Master Plan ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2559 เป็นต้นมา โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นแทนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท ได้แก่ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกรมกิจการเด็กและเยาวชน เงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 

เงินเดือนทหารกองประจำการของกระทรวงกลาโหม เงินค่าป่วยการ อสม. ของกระทรวงสาธารณสุข เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา มาอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมความพร้อมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเงินเบี้ยความพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 76 จังหวัด 

โดยคัดเลือกจังหวัดสิงห์บุรีเป็นหน่วยงานนำร่อง ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิได้โดยตรง ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.สิงห์บุรี ทั้ง 41 แห่ง ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และได้รับการสนับสนุนจากกรมการปกครองในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคล เพื่อให้สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการให้กับผู้มีสิทธิใน จ.สิงห์บุรี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค. 2562 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.สิงห์บุรี ที่มีฐานข้อมูลพร้อมจ่ายเงินตามโครงการฯ จำนวน 30 แห่ง จากทั้งหมด 41 แห่ง แบ่งเป็น ผู้มีสิทธิที่จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้อายุ จำนวน 25,624 ราย เป็นเงิน 16.9 ล้านบาท และผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ จำนวน 4,277 ราย เป็นเงิน 3.4 ล้านบาท เริ่มจ่ายตรงเดือนแรกในวันที่ 9 ส.ค. 2562 สำหรับผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการใน จ.สิงห์บุรี ที่เหลืออีก 11 แห่ง จะเริ่มจ่ายตรงในวันที่ 10 ก.ย. 2562 โดยการจ่ายเงินดังกล่าวจะมีรอบการจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น ๆ 

สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว หากมีเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ไม่พอจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ กรมบัญชีกลางมีแนวทางให้ความช่วยเหลือ อปท. เพื่อให้สามารถจ่ายเงินแก่ผู้มีสิทธิได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ สถ. แจ้งกรมบัญชีกลางขอใช้เงินยืมทดรองราชการเพื่อทดรองจ่ายตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมได้ และเมื่อสิ้นปีงบประมาณ หาก อปท. ใด มีเงินเหลือจากการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินที่เหลือจ่ายดังกล่าวคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของ อปท. เพื่อเป็นรายได้ของ อปท. ต่อไป

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการแทน อปท. ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้มีสิทธิ เนื่องจากผู้มีสิทธิจะยังคงได้รับสิทธิตามเดิม ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน รวมถึงช่องทางในการรับเงิน อีกทั้ง ช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแบ่งเบาภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางจะทยอยดำเนินการจ่ายเงินในอีก 8 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จ.จันทบุรี จ.นครราชสีมา จ.มุกดาหาร จ.น่าน จ.อุทัยธานี จ.สมุทรสงคราม จ.พังงา และ จ.สงขลา ซึ่งคาดว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จะดำเนินการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการของ อปท. ครบทั้ง 76 จังหวัด รวมถึงการจ่ายเงินค่าป่วยการ อสส. ในเขตกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งจะทำให้การจ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการครบทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 12.4 ล้านราย ตามเป้าหมายการดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ