สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียและโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นธนาคารหลักในการจัดการกองทุน 1MDB (วัน มาเลเซีย ดีเวลอปเมนท์ เบอร์ฮาด) ที่จัดขึ้นในปี 2552 ได้บรรลุข้อตกลงในข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยโกลด์แมน แซคส์ ยอมที่จะรับผิดชอบความเสียหายทั้งสิ้น 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 123,000 ล้านบาท
จากมูลค่าความรับผิดชอบดังกล่าว ธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่จะจ่ายเงินสดให้กับรัฐบาลมาเลเซียมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 79,000 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่าธนาคารจะคืนสินทรัพย์มูลค่าอย่างต่ำ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 44,200 ล้านบาท ที่ธนาคารได้มาจากการเป็นผู้ออกพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB
นายเติงกู ซาฟรุล อับดุล อาซิซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซีย ชี้ว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการแสดงสินทรัพย์แท้จริงที่เป็นของชาวมาเลเซีย หลังจากความพยายามบรรลุข้อตกลงครั้งก่อนหน้าในปี 2562 ธนาคารรายใหญ่นี้ ยื่นข้อเสนอกลับมาเพียง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 53,700 ล้านบาท เท่านั้น
รมว.คลังฯ ของมาเลเซีย กล่าวเพิ่มว่า “เรายินดีที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้โดยไม่ต้องขึ้นศาล ที่ต้องใช้เวลา เม็ดเงิน และทรัพยากรมหาศาล”
แม้ที่ผ่านมาโกลด์แมน แซคส์ จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนสมรู้ร่วมคิดกับการฉ้อโกงกองทุนแห่งชาติของมาเลเซีย และอ้างว่าธนาคารถูกอดีตเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่กองทุนโกหก แต่อดีตพนักงานของธนาคาร 2 คน ก็ถูกตั้งข้อหาในการช่วยกองทุนดังกล่าวฟอกเงินเช่นเดียวกัน
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2555-2556 โกลด์แมน แซคส์ รับหน้าที่เป็นผู้เสนอขายพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับกองทุนทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ และระดมทุนได้สูงถึง 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 205,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ได้ออกมาชี้แจงภายหลังว่าเม็ดเงินจำนวนมากจากการระดมทุนนั้น ถูกนายโลว เตี้ยก โจว หรือ โจ โล ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซียผู้ก่อตั้งกองทุนและยังรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลในขณะนั้นนำออกไป
โดยอัยการของสหรัฐฯ ชี้ว่า แม้ขณะนั้นจะมีสัญญาณถึงการฉ้อโกงจากนายโลว เตี้ยก โจว แต่โกลด์แมน แซคส์ ก็ละเลยความผิดปกติเหล่านั้น
ในการบรรลุข้อพิพาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทชี้แจงว่า "การบรรลุข้อตกลงในวันนี้เป็นก้าวที่สำคัญในการวางกรณี 1MDB ไว้ข้างหลังเรา ทั้งยังช่วยให้รัฐบาลมาเลเซียก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามในการฟื้นตัวที่เพิ่มขึ้นและเพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญที่สุดของเศรษฐกิจของประเทศ"
อย่างไรก็ตาม แม้โกลด์แมน แซคส์ จะบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลมาเลเซียได้แล้ว แต่ข้อกล่าวหาที่ธนาคารต้องเผชิญจากฝั่งกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ยังไม่จบลง เช่นเดียวกับที่ รมว.คลังฯ ของมาเลซียย้ำว่า กระบวนการฟ้องร้องระหว่างรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆ กับการฉ้อโกงครั้งนี้ยังดำเนินต่อไปเช่นเดียวกัน
อ้างอิง; WSJ, Nikkei Asian Review, BI, Aljazeera, BBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: