วันที่ 10 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกล นำโดย ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และคณะแถลงข่าวขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณี จ.อ่างทอง ได้ดำเนินการตรวจสอบเหตุเด็กที่ไม่มีเอกสารทางทะเบียนราษฎรจำนวน 126 คนที่มาศึกษาในโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 (ฉบับราษฎร์อุปถัมภ์) อ.ปาโมก จ.อ่างทอง แต่กระทรวงศึกษาธิการไม่อาจออกรหัส G ที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้กำหนดรหัสประจำตัว
สำหรับนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรได้ และต่อมามีการส่งเด็กกลับสู่ภูมิลำเนาในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง
จึงทำให้เกิดคำถามต่อการจัดการศึกษาให้กับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย ที่อาจขัดต่อหลักการระหว่างประเทศ กฎหมายภายในประเทศ นโยบาย และยุทธศาสตร์ต่างๆ อาจมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก
จากกรณีดังกล่าวในปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยอยู่ทั่วประเทศโดยประมาณ 300,000 คน ในจำนวนนี้มีประมาณ 100,000 คน ที่เข้าสู่ระบบ และได้รับรหัส G แต่การได้รับรหัส G ของเด็กเป็นเพียงแต่การได้รับสิทธิเข้าศึกษา หมายถึงการลงรายการสถานะบุคคลหรือการให้สัญชาติไทยโดยอัตโนมัติทำให้เด็กเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่จำเป็นหลายประการ และยังนำไปสู่การขาดโอกาส และถูกเลือกปฏิบัติ อันจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว และเรื่องดังกล่าวนี้ยังเกี่ยวข้องกับหลักการระหว่างประเทศ นโยบาย ยุทธศาสตร์ในระดับต่างๆ และการปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ ที่ขาดการบูรณาการหรือการทำระบบ บนพื้นฐานประโยชน์สูงสุดของเด็ก
จึงสมควรให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิสามัญเพื่อศึกษสถานการณ์ ปัญหา และวางแนวทางทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย ที่รวมไปถึงแนวทางการลงรายการสถานะบุคคลหรือการให้สัญชาติในระยะยาว