ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี เผยได้ครม.ชุดใหม่กลางเดือนหน้า ขอทุกคนใจเย็น ระบุ มีบางคนหลุดโผ หวัง ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาลทำงานร่วมกันได้ในสภา บ่นรบ.ยังไม่ทันตั้งมีคนจ้องล้ม

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในตั้งคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ชุดใหม่ว่า หลังจากนี้จะเรียกแต่ละคนมากรอกและรับรองประวัติอย่างเป็นทางการ โดยที่ผ่านมาได้ตรวจสอบกับหน่วยงานต่างๆมาแล้ว รวมถึงบางคนที่มีคดีก็มีการชี้แจงเบื้องต้นแล้วว่าแต่ละคดีอยู่ในขั้นตอนไหนและกฎหมายว่าอย่างไร ซึ่งมีข้อชี้แจงทั้งหมดแต่ท้ายที่สุดก็ต้องให้แต่ละคนมาเซ็นรับรองตัวเอง และวันหน้าหากไม่เป็นไปตามที่รับรองก็อาจโดนคดีได้ ดังนั้นถือว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจรวจสอบ จึงขอให้ใจเย็นๆ ยืนยันว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯทันตามขั้นตอนอย่างแน่นอน

ส่วนรายชื่อครม.เป็นไปตามที่แต่ละพรรคเสนอมาหรือไม่นั้น ตนยังไม่ขอบอกและยังบอกไม่ได้ เพราะหากบอกไปว่าได้หรือไม่ได้ก็ไม่จบซักที ส่วนจะมีบางคนหลุดไปจากโผที่พรรคเสนอมาหรือไม่ ยอมรับว่าอาจจะมีบ้าง เพราะทั้งหมดก็มี 36 ตำแหน่ง รัฐมนตรีหลักหากควบก็เป็นรัฐมนตรีช่วย และหากรายชื่อครม.มีคนมากกว่านั้น เพราะซ้ำรายชื่อ 3 คนหรือไม่ต้องจะไปดูอีกครั้ง หากไม่เป็นรัฐมนตรีก็เป็น ส.ส​. และสามารถทำงานในรัฐสภาได้ และหวังว่าทั้งส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะสามารถทำงานด้วยกัน ไม่ใช่จ้องจะล้มกันอยู่ตลอดเวลา แต่ตนก็ไปห้ามใครไม่ได้ ต้องใช้ว่าประชาชนตัดสินเอาเองว่าพฤติกรรมแต่ละคนเหมาะสมหรือไม่ 

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนจะเรียกว่าที่รัฐมนตรีว่าเซ็นรับรองที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องของเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการ และเป็นไปตามระเบียบที่อยู่แล้ว จึงขออย่ามาถามตนอีก และนายกฯจะทำหมดทุกอย่างได้อย่างไร แต่ยืนยันว่าทันเวลาตามกำหนดอย่างแน่นอน และจะได้รัฐบาลใหม่ในช่วงกลางเดือนหน้า จึงขอให้รอเวลาถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งวันนี้ยังไม่ทันตั้งรัฐบาลก็เริ่มจ้องจะล้มรัฐบาลกันแล้ว ขณะเดียวกันตนได้ยืนยันกับต่างประเทศว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องดังกล่าว

ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าการตั้งรัฐบาลเสร็จแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจและไม่งอแงนั้น เชื่อว่าตนอยู่มา 5 ปี ไม่เข้าใจก็แย่แล้ว จึงคงไม่ต้องพูด และคิดว่าคุยกันได้รู้เรื่อง ถ้าทุกคนมองประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นต้องเข้าใจว่าตนทำงานด้วยหลักการ และกฎหมาย เพราะต้องระวังตัวเองเช่นกัน โดยเฉพาะแรงกดดันต่างๆที่เข้ามาหาตน เพราะต้องมีคณะทำงานเพื่อกลั่นกรองแผนงานนโยบาย และการใช้จ่ายงบประมาณ 

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดทั้งวันนี้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ปฏิบัติหน้าที่เคียงคู่ข้างนายกฯ และยืนเฝ้านายกฯตลอดการแถลงข่าวของวันนี้ โดยในช่วงท้ายได้สอบถาม นายกฯว่าได้มีการมอบหมายให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ มาทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ให้ดูแลไปก่อน โดยมาเป็นที่ปรึกษา และทำหน้าที่แทนพลเอกวิลาศ อรุณศรี ไปพรางก่อน แต่ยังไม่มีการลงนามอะไรทั้งสิ้น พร้อมกล่าวแซวด้วย และหันไปที่นายดิสทัตดิว่า ต้องดูความประพฤติก่อน

ส่วนความคืบหน้าการจะตัดสินใจ รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า การที่ตนจะรับตำแหน่งหรือไม่รับมีผลกระทบกับใครหรือไม่ จะเป็นหรือไม่เป็นหัวหน้าพรรค ก็สามารถทำงานได้ เป็นเรื่องการเมืองที่ต้องว่ากันไปขณะเดียวกัน ขอบคุณที่บางส่วนไม่อยากให้รับตำแหน่งเพราะจะต้องรับผิดชอบทางการเมืองหากพรรคพลังประชารัฐทำผิดกฎหมาย

ส่วนปัญหาการถือครองหุ้น ของ ส.ส. และ ส.ว. ว่าก็ถูกตรวจสอบทั้งสองฝ่ายเป็นเรื่องของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรนำเข้าพิจารณาในสภาถ้าจำเป็นก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเมื่อตัดสินอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น ยืนยันไม่ได้กังวล ทุกอย่างมีพัฒนาการก็แก้ไปตามกฎหมายและขอให้เชื่อมั่นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยเฉพาะเรื่องเฉพาะตัวบุคคลเฉพาะเรื่องอย่านำไปเป็นบรรทัดฐาน ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด

อ่านเพิ่มเติม