ไม่พบผลการค้นหา
"สุรชาติ เทียนทอง" ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบซูเปอร์มาร์เก็ตอาจขายของแพงกว่าราคาจริง ไม่ใช่ตรวจสอบแค่ร้านค้าปลีกรายเล็กๆ อย่างเดียว

นายสุรชาติ เทียนทอง รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วานนี้ (9 เม.ย.) หลังจากทำภารกิจแจกหน้ากากผ้าให้ประชาชนในพื้นที่แล้ว จึงแวะซื้อของที่ซูเปอร์มาเก็ต และพลาดซื้อกระดาษทำความสะอาดแบบเปียกใช้ครั้งเดียวทิ้งมาในราคาแพ็กละ 99 บาท โดยตอนจ่ายเงินพนักงานขอคิดแยกกับสินค้าอื่นๆ ทำให้กลับมาถึงบ้านเปิดดูถึงรู้ว่า ในแพ็กบรรจุแค่ 10 แผ่นเท่านั้น ดังนั้นกระดาษเปียกที่ซื้อมาจึงตกที่ราคาเกือบแผ่นละ 10 บาท แต่เมื่อลองเช็กราคาจากออนไลน์พบว่า ราคาอยู่ที่ 45-50 บาท เท่านั้น ถือว่าราคาแพงขึ้นจากเดิมมาก

โดยนายสุรชาติ บอกด้วยว่า เรื่องนี้อาจเกี่ยวกับความไม่รอบคอบที่ไม่ดูรายละเอียดให้ดี แต่มาถามตัวเองในฐานะผู้บริโภคว่าถ้ารู้ว่ามันแผ่นละเกือบสิบบาทจะยังซื้ออยู่หรือไม่ ตอบตัวเองว่าก็คงจะจำใจซื้อเพราะของมันอยู่ตรงหน้าและมันก็จำเป็นในเวลานี้ และก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดแบบนี้ และส่วนที่อยากจะสื่อสารนอกจากความไม่รอบคอบของตัวเองแล้วก็คือ เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เพราะกลไกการค้าของโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าตรงจากบริษัทผู้ผลิตโดยไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งน่าจะได้ราคาที่ถูกกว่าร้านค้าปลีกทั่วไปที่ต้องผ่านคนกลาง และตนเชื่อว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้า ดังนั้นจะอ้างไม่ได้ว่ารับต้นทุนของมาแพง แต่มาขายบวกราคาหลายเท่าตัวแถมไม่เอาเข้าระบบบัญชีด้วย ถือว่าเสียมาตรฐานมากๆ

จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมการค้าภายใน ว่านอกจากจะไปตรวจหรือจับร้านค้าปลีกรายเล็กรายน้อยแล้ว ควรจะไปตรวจซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างโมเดิร์นเทรดเหล่านี้ด้วย ในยามที่อุปกรณ์ป้องกันตัวจากเชื้อโรคเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน การปล่อยให้ผู้ค้ารายใหญ่มาเอาเปรียบผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

หลายครั้งที่มีข่าวว่ามีการจับสินค้ากักตุนหรือขายเกินราคา แทนที่สินค้าเหล่านั้นจะราคาลดลง แต่มันกลับหายไปจากตลาดเลย มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ผู้บริโภคยิ่งเดือดร้อนไปกันใหญ่ สุดท้ายก็ไม่มีใครอยากร้องอยากฟ้อง ยอมจำนนซื้อของแพงดีกว่าไม่มีให้ซื้อ เรื่องนี้ต้องเอาจริงเอาจัง