ที่อาคารรัฐสภา ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเผยว่า ได้มีการจัดวางตัวผู้อภิปรายจากพรรคเพื่อไทยไว้ ประมาณ 15 คน อาจจะมีเพิ่มลด ไม่เกิน 2-3 คน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นผู้ใด
สำหรับเป้าหมายหลักของการอภิปรายครั้งนี้ ประเสริฐ ระบุว่า ทางพรรคเพื่อไทยจะเน้นไปที่ประเด็นการทุจริต เพราะมีหลักฐาน โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ามีใบเสร็จ แต่จะถึงขั้นล้มได้หรือไม่นั้น ต้องยอมรับว่า ฝ่ายรัฐบาลมีคะแนนเสียงในสภามากกว่า แต่หลังการอภิปรายแล้ว จะเห็นได้ว่า กระแสของประชาชนที่ได้รับฟังจะเป็นตัวชี้ว่า รัฐบาลจะอยู่หรือไป
"เดิมทีแล้วการอภิปรายจะขอเวลา 5 วัน เพราะมีเป้าหมายเป็นนายกฯ และรัฐมนตรี รวมแล้ว 11 ราย จึงอยากใช้เวลาให้เต็มที่ สมกับเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย" ประเสริฐ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับประเด็นของนายกรัฐมนตรีนั้น หลังอภิปรายแล้ว จะสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้หรือไม่ ประเสริฐ ยืนยันว่า สามารถยืนต่อ ป.ป.ช.ได้ แต่ขอไม่ลงรายละเอียด เพราะเดี๋ยวข้อสอบรั่ว แต่เป็นเรื่องการทุจริต เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน มีทั้งเรื่องใหม่และเรื่องเดิมที่มีอยู่แล้ว และได้ตกลงกับพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้วว่า จะต้องใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ถ้าหากไม่มีประเด็นใหม่ จะขออนุญาตตัดออก แต่ถ้ามีข้อมูลใหม่ เราจะให้เวลาเต็มที่
ประเสริฐ ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาการอภิปรายสะเปะสะปะ ที่เกิดขึ้นในคราวก่อนหน้า ว่าปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นเพราะต่างฝ่ายต่างปกปิดข้อมูล ทำให้ไม่รู้หัวข้ออภิปราย ในเมื่ออยู่ด้วยกัน ก็ต้องให้เกียรติกัน เมื่อเขามีข้อมูลก็จะต้องให้อภิปราย ครั้งนี้ได้กำชับว่า ขอให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด
สำหรับวันที่จะใช้ในการอภิปรายฯ คาดว่าจะอยู่ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ และ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ทั้งสองฉบับแล้วเสร็จ จึงค่อยเข้าสู่การอภิปรายฯ มั่นใจว่า ร่าง พ.ร.ป.ทั้งสองฉบับ น่าจะเสร็จทันก่อนวันอภิปราย