วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568) นางเฮเลนา เลิร์ช (Mrs. Helena Lersch) รองประธานฝ่ายตลาดใหม่และนโยบายสาธารณะ (Vice President of Public Policy - Emerging Markets) บริษัท TikTok และคณะ เข้าพบหารือกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวต้อนรับและยินดีที่วันนี้จะได้หารือร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งรัฐบาล โดยการดำเนินงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีนโยบายที่มุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถทางดิจิทัล โดยเฉพาะด้าน data center นโยบาย Cloud First Policy และการใช้เทคโนโลยี AI สอดคล้องกับแนวทางการลงทุนของบริษัท TikTok ในไทย พร้อมเชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของของประเทศไทยในการขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ตลอดจนผู้ประกอบการได้อย่างเท่าเทียม

ด้านรองประธานฝ่ายตลาดใหม่ฯ บริษัท TikTok ขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันแพลตฟอร์ม TikTok ในไทยมีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัท TikTok เลือกไทยเป็นพื้นที่การลงทุนที่สำคัญ รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการชาวไทยกว่า 3 ล้านราย ในการนำเสนอและจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop ซึ่งบริษัท TikTok ยินดีที่จะหารือกับหน่วยงานไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพร่วมกันต่อไป

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมและแพลตฟอร์มดิจิทัลในอนาคต อาทิ 

ด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดิจิทัล รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการส่งเสริมทักษะทางดิจิทัลให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง การพัฒนาศูนย์ดิจิทัลชุมชน การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดดิจิทัล ซึ่งบริษัท TikTok เห็นพ้องและยินดีที่จะส่งเสริมผ่านทางการจัดฝึกอบรมผู้ประกอบการ พัฒนาทักษะทางดิจิทัลต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มของ TikTok รวมทั้งพัฒนากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ และปลอดภัย

ด้านการสร้างความตระหนักรู้เรื่องอาชญากรรมและการหลอกลวงออนไลน์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดทำแคมเปญต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน โดยที่ผ่านมาบริษัท TikTok ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย ด้วยการใช้แฮชแท็ก #คนไทยรู้ทัน ซึ่งมีผู้รับชมไปมากกว่า 3.5 พันล้านวิว และในปี 2568 นี้จะสานต่อการทำงานร่วมกับหน่วยงานไทยต่อไป เพื่อส่งเสริมการป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์ให้กับประชาชน 

ด้านการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงโอกาสในการลงทุนและการสร้างงานในไทย โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้สร้างคอนเทนต์ชาวไทย (Thai creators) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีฯ เน้นย้ำถึงการส่งเสริมความร่วมมือระยะยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลและการขยายโอกาสให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง ขณะที่บริษัท TikTok ยินดีที่จะพัฒนาแพลตฟอร์ม TikTok ให้พร้อมรองรับผู้ใช้งานทุกประเภท ซึ่งจะสามารถต่อยอดไปยังการนำเสนอ Soft Power ที่เป็นศักยภาพของไทยด้วย เช่น ด้านอาหาร ดนตรี การท่องเที่ยว 

“แพลตฟอร์ม TikTok ถือเป็นอีกแอปพลิเคชันที่มีผู้นิยมใช้งานจำนวนมากในชีวิตประจำวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่า การหารือร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลของไทยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ต่อยอดความร่วมมือทุกมิติ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว