เมื่อวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ N 402 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), กองอำนวยการรัษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ใช้เวลาประชุมราว 4 ชั่วโมง โดยมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นประธานในที่ประชุม
ทั้ง 3 หน่วยงานได้มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาความขัดแย้งและแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในมิติด้านความมั่นคง การพัฒนา และการบริหารจัดการ รวมถึงให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำมาประเมินเพื่อวางแนวทางในการทำงานของกรรมาธิการ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การศึกษากระบวนการเจรจาสันติภาพและการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในภาพรวม โครงสร้างและกลไกการบริหาร เรื่องความยุติธรรม กฎหมาย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ การพัฒนา แผนงานด้านเศรษฐกิจ การบริหารจัดการงบประมาณ สังคมพหุวัฒนธรรม รวมทั้งบทบาทของสภา
“กรรมาธิการมีหลายคนมากที่มีความรู้ และมีประสบการณ์โดยตรง มีความกระตือรือร้นมาก กรรมาธิการจะพยายามรวบรวมและสังเคราะห์ออกมาให้เป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของรัฐบาล และรัฐสภาว่าจะต้องออกกฎหมายอะไร เช่น การเจรจาต้องการกฎหมายไหม คำสั่ง คสช.ที่มีผลทำให้เป็นอุปสรรคบางอย่าง วันนี้หน่วยงานก็เห็น” ประธาน กมธ.สันติภาพ กล่าว
จาตุรนต์ ยังเห็นว่ายังต้องเชิญบุคคล หน่วยงาน/องค์กร นักวิชาการ หรือภาคประชาสังคมทุกภาคส่วนที่มีความรู้ความเข้าใจในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการประชุมครั้งถัดไป หลังจากนั้นจะมีการเวิร์กชอปร่วมกันในกรรมาธิการ โดยเชิญผู้ที่มีประสบการณ์และศึกษาวิจัยเรื่องนี้มาร่วมด้วยเพื่อกรรมาธิการจะได้ร่วมกันทำความเข้าใจและตั้งหัวข้อประเด็นในการศึกษาต่อไปและใช้ประโยชน์ในการลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกภาคทั่วประเทศต่อไป
“การเปิดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด รับฟังทุกฝ่าย และสิ่งที่จะแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาคือจะรับฟังคนในพื้นที่อย่างเต็มที่ และจะรับฟังคนนอกพื้นที่ด้วย เพราะถือว่าการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ต้องให้คนในสังคมส่วนใหญ่มีความเข้าใจมากขึ้นและสนับสนุนการแก้ปัญหา” ประธาน กมธ.สันติภาพ กล่าวทิ้งท้าย