นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ กล่าวว่า ในส่วนของเหตุการณ์ที่กลุ่มของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในนาม 'หน้ากากผี' ที่มาปะปนกับกลุ่มนักธุรกิจและนำหน้ากากอนามัยไปหลอกลวงประชาชนว่าเป็นน้องชายตนให้เกิดการเข้าใจผิด เพื่อต้องการหลอกลวงเงินหรือทรัพย์สินอื่นจากผู้เสียหายเรื่องการหลอกขายหน้ากากอนามัยนั้นตนไปยื่นคำให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว
นายพันธ์ยศ กล่าวว่า การที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมกล่าวกับสังคมออนไลน์ว่าการทำกิจกรรมของตนในช่วงนี้เป็นการฟอกขาวให้ตัวเองพ้นคดีและเรื่องที่ตนได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องหน้ากากอนามัยนั้น เป็นสิ่งที่นายอัจฉริยะรู้อยู่แล้ว และไม่มีความสำคัญ ส่วนตัวคิดว่า นายอัจฉริยะ ไม่ควรพูดเพราะนอกจากจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมแล้ว เเต่ยังหมายถึงทัศนคติของนายอัจฉริยะที่แสดงออกมาว่าไม่มีความจริงใจกับ สิ่งที่เคยได้พูดคุยกับตนมาก่อนหน้านี้ ว่าจะช่วยเหลือกันในการเปิดโปงการทุจริตหน้ากากอนามัยและตามหาเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพ เเม้สิ่งที่นายอัจฉริยะกระทำไปเเละอ้างว่าเพื่อประชาชนก็ตาม แต่การที่จะเป็นคนที่สังคมให้ความยอมรับได้นั้น จะต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความคิดของตัวเองไม่ใช่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นนี้
“จากการที่นายอัจฉริยะ ออกมาให้สัมภาษณ์ในโลกออนไลน์ทำให้บางคนคิดว่าตนเป็นคนเสแสร้งและเพิ่งจะออกมาทำความดีได้ไม่นานเนื่องจากเจอพัวพันกับหน้ากากอนามัย อีกทั้งมีกลุ่มกักตุนสินค้าและกลุ่มมิจฉาชีพที่พยายามจะโยนความผิดทั้งหมดมาให้ตน พยายามปั่นกระแสให้เกิดความเกลียดชังตนอยู่ตลอดเวลา และหวังว่าจะให้เป็นข่าวอีกครั้ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาพูดเพื่อปกป้องตนเองจากการเข้าใจผิดของสังคม" นายพันธ์ยศ ระบุ
นายพันธ์ยศ กล่าวว่า ตนได้พูดกับนายอัจฉริยะก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน โดยตนเสนอตัวในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องหรือช่วยเหลือในเรื่องหน้ากากอนามัยเพราะว่าตนเคยอยู่ในเหตุการณ์และรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะหลายสิ่งที่นายอัจฉริยะได้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนในเรื่องหน้ากากอนามัยหลายเรื่องก็ไม่เป็นความจริง แต่ตนไม่ได้ถือสานายอัจฉริยะ เนื่องจากตนได้คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น เพราะมีคนเตือนว่านายอัจฉริยะเป็นคนอย่างไร ตนเพียงต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้รู้ว่าตนเป็นเพียงแพะทางการเมือง ที่ทำธุรกิจกับชาวจีนมาก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายมาบังคับใช้ รวมไปถึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำผลกำไรไปช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนและประสบปัญหา ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในประเทศไทยเพียงเท่านั้นจริงๆ
นายพันธ์ยศ กล่าวว่า สื่อออนไลน์บางเพจมักจะเขียนเนื้อหาที่โจมตีตนเป็นประจำและเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง บางครั้งก็นำเอาภาพของตนและวิดีโอไปตัดต่อใส่ข้อความที่แสดงถึงความเกลียดชัง สื่อในลักษณะนี้จะมีให้เห็นกันอยู่ได้มาก ถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อทำลายตนหรือเพื่อเป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพที่กำลังจะโยนความผิดให้ตน ซึ่งตนก็เคยอยู่ในวงการสื่อแต่ไม่เคยใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ทำลายคนสื่อเเบบนี้มีอยู่เเละ ทำให้มีผู้เดือดร้อนเกี่ยวกับข่าวที่ไม่เป็นความจริงอยู่ตนกำลังเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้อีกหลายคน
นายพันธ์ยศ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมานอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว เจลแอลกกอฮอล์ล้างมือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตนคิดที่จะทำออกมาเพื่อจะให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้ใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19เพราะเป็นความตั้งใจที่อยากจะทำมาตั้งแต่ต้นไม่ได้คิดจะมาสร้างภาพ ให้เห็นว่าเพิ่งจะมาทำความดีเวลาที่มีข่าวเท่านั้น ซึ่งเจลแอลกอฮอล์ที่ตนสั่งผลิตขึ้นมานั้น ได้คัดเลือกโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน และดูรายละเอียดเรื่องส่วนผสม รวมทั้งการจดแจ้งและรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอย่างถูกต้องครบถ้วน ซึ่งน่าจะนำออกจำหน่ายในราคาถูกได้ประมาณสัปดาห์หน้า รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยสังคม เเละหากผู้ด้อยโอกาสต้องการเจล ตนพร้อมนำไปมอบให้เพื่อให้คนไทยปลอดภัยเเบบไม่คิดเงิน ดังที่ตนเคยช่วยเหลือสังคมมาเเล้วหลายครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :