13 ส.ค. 2566 ที่ จ.ระยอง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยว่ามีความพร้อมอย่างมากสำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งข้อมูลหรือนโยบายสามารถทำต่อได้เลย พรรคก้าวไกลได้ส่ง พงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.ระยองเขต 3 ซึ่งเป็นคนของพรรคอนาคตใหม่มาก่อน มีอุดมการณ์ ในเรื่องของการทำงานพร้อมเต็มที่ มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้พี่น้อง อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา ได้
พิธา ระบุว่า สาเหตุที่เลือก พงศธร เพราะเป็นทีมงานของ จ.ระยอง และภาคตะวันออกมาโดยตลอด หลายครั้งการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลในสภา ก็มาจาก พงศธร เช่น ปัญหาช้างป่าที่เขาชะเมา มั่นใจว่าจะทำงานอย่างมีความชัดเจน และมีประสิทธิภาพ
พิธา ให้ความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองว่า ประชาชนโหยหาบรรยากาศการเลือกตั้ง บรรยากาศแห่งความหวัง บรรยากาศที่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ ในการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นเขต 3 จ.ระยอง เราตั้งใจอย่างเต็มที่ ซึ่งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศฝากมา ว่าอยากเห็นบรรยากาศอย่างนั้นเกิดขึ้นที่นี่
ขณะที่พรรคคู่แข่งอาจใช้กลยุทธ์ส่งผู้สมัครพรรคเดียว พิธา กล่าวว่า เราทำของเราเต็มที่ก็พอ ซึ่งก่อนจะมาได้ ศึกษาการเลือกตั้งในปี 2562 และ การเลือกตั้งที่ผ่านมา พบว่าคนมาใช้สิทธิ์ 77% จาก 100,000 คน คือ 77,000 คน เมื่อมาคำนวณก็พบว่าเรายังนำอยู่
"เราไม่ประมาท สำหรับคนที่บอกว่าเลือกตั้งไปทำไม เลือกตั้งไปแล้วไม่มีความหมาย ยังไงก็ไม่ตรงกับเจตจำนงของเขาอยู่ดี เราต้องมาย้ำให้เขาเข้าใจว่า ยิ่งเป็นอย่างนี้ ยิ่งต้องเลือกตั้งให้เยอะ อย่าไปยอม"
พิธา กล่าวด้วยว่า พี่น้องประชาชนถามว่าเลือกตั้งเป็นรัฐบาลหรือเลือกตั้งเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องยืนยันให้เห็นว่าถ้าเป็นฝ่ายค้านของประชาชน เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลแห่งชาติ ตามที่สื่อมวลชนหลายคนได้วิเคราะห์ ถ้าเป็นฝ่ายค้านทำงานร่วมกับประชาชนก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน และเรื่องความชัดเจนการเมืองภาพใหญ่ยังไม่นิ่ง แต่เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนยังรออยู่ เราต้องเดินหน้าทำงาน
พิธา ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องสาธารณสุขของ จ.ระยอง ซึ่งค่าเฉลี่ยของประเทศไทย ประชากร 1,000 จะมีหมอ 1.1 คน ถ้าที่อำเภอแกลงคือ 0.17 ถ้า อ.เขาชะเมาคือ 0.22 ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 10 เท่า ระยองจึงเป็นส่วนที่ตนกังวลมากที่สุด ถ้ามีโอกาสบริหาร และรัฐมนตรีสาธารณสุขไม่ใช่คนเดิม แต่เป็นคนของพรรคก้าวไกล คงจะเน้นตรงนี้มากเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
ขณะที่กรณีของ นครชัย ขุนณรงค์ อดีต สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ที่ได้ลาออกไปแล้ว พิธา ชื่นชมในความตรงไปตรงมา เสียสละให้กับพรรค และจะสู้คดีในฐานะคนธรรมดา โดยไม่มีตำแหน่งไม่มียศ พรรคก้าวไกลจะสานต่อเจตนารมณ์ของ นครชัย อย่างเต็มที่
"พรรคของเราเป็นพรรคที่ให้โอกาสคน แม้จะมีข้อผิดพลาดในอดีตแล้ว รับโทษไปแล้ว กลับตัวมาตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ก็ควรจะให้โอกาสคนในสังคมเช่นเดียวกัน นี่ถือเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกล ขอบคุณที่เสียสละ และยังทำงานให้พรรค ซึ่งถ้าเลือก พงศธร ก็ยังมี นครชัย ทำงานอยู่ เหมือนได้ สส.เขต 2 คน เป็นโปรโมชันพิเศษ"
ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล พิธา กล่าวว่า ก็คงมีคำว่า 'อาจจะ' อยู่ ยังรอฟังความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย หากมีความชัดเจนว่า ดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ก็จะตัดสินใจทิศทางการโหวตของ สส. พรรคก้าวไกล แต่ที่ผ่านมาได้รับฟังจาก แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มาโดยตรง ก็มีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้ยังไม่แน่นอน ต้องรอความชัดเจนเพื่อขอมติพรรค
ส่วนการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ โดยโหวตให้ก่อน แล้วมาร่วมรัฐบาลภายหลัง พิธา มองว่า ต้องถามพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำที่จัดตั้งรัฐบาลอยู่ แต่เราเห็นความไม่ชอบมาพากล ขอรอสถานการณ์ให้นิ่ง แล้วจะตัดสินใจอย่างรอบคอบแน่นอน ซึ่งไม่ว่าออกมารูปแบบไหนก็จะยึดตามสัจจะที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ พิธา ระบุว่า พรรคก้าวไกลมีความเป็นเอกภาพส่วนใหญ่จะทำตามมติพรรค น้อยครั้งมากที่จะเปิดให้ฟรีโหวต ซึ่งพรรคนี้หัวหน้าพรรคไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมติพรรค
สำหรับโอกาสจะเสนอชื่อ พิธา แข่งกับ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในรอบนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ พิธา กล่าวว่า ยังไม่เห็นความชัดเจน ต้องรอดู
พิธา ยังยืนยันว่า สส. 150 คน ออกไปรับฟังไม่ใช่แค่ในโซเชียลมีเดียแน่นอน ไม่ใช่พรรคที่อยู่แค่โลกโซเชียลมีเดีย หรือโลกของคนรุ่นใหม่ เราลงพื้นที่ไป กินกาแฟในสภากาแฟ เดินเข้าหมู่บ้าน รับฟังปัญหาจากประชาชน และรับฟังอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่ทำโพลทางโซเชียลอย่างที่มีการกล่าวหา