กรมส่งเสริมวัฒนธรรมออกประกาศเมื่อ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา เรื่อง ผลการคัดเลือก 10 แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้มอบนโยบายให้คัดเลือกสุดยอดงานด้านวัฒนธรรม เพื่อประกาศ ยกย่องเชิดชูเกียรติ รณรงค์ให้มีการรักษามรดกศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้กับศิลปวัฒนธรรม ในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้ดำเนินการคัดเลือก 10 แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป ได้แก่
1. ดอยตุง จ.เชียงราย
2. ฮิโนกิแลนด์ จ.เชียงใหม่
3. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จ.นครราชสีมา
4. ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรี
5. สวนนงนุช จ.ชลบุรี
6. หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จ.สุพรรณบุรี
7. วู้ดแลนด์ เมืองไม้ จ.นครปฐม
8. เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ
9. สยามนิรมิตร กรุงเทพมหานคร
10. ภูเก็ตแฟนตาซี จ.ภูเก็ต
ด้านโลกออนไลน์มีการแชร์ประกาศดังกล่าว ผ่านเพจเฟซบุ๊กของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันมีกระแสวิพากย์วิจารณ์ พร้อมกับตั้งประเด็นคำถามถึงสถานที่ 'ฮิโนกิแลนด์' จ.เชียงใหม่ ว่าเหตุใดจึงได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป เพราะฮิโนกิแลนด์ ไม่ใช่สถานที่ที่เป็นวัฒนธรรมไทย แต่เป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่น รวมถึงอยากทราบถึงหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก และยังมีอีกหลายสถานที่ใน จ.เชียงใหม่ ที่เหมาะสมกว่านี้
วอยซ์ ออนไลน์ สอบถามประเด็นดังกล่าวไปยังกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กลุ่มส่งเสริมเครือข่ายท้องถิ่นและชุมชน ถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาแต่ละแหล่งวัฒนธรรม โดย ผอ.มนัสศรี ตันไล้ เจ้าของเรื่องดังกล่าว ระบุว่า การคัดเลือกแต่ละสถานที่มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่ 5-6 ข้อ ซึ่งแต่ละสถานที่ต้องมีวัฒนธรรมที่ชัดเจน แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นวัฒนธรรมไทยเท่านั้น โดยแต่ละสถานที่ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากการสำรวจข้อมูลและเสนอรายชื่อ ซึ่ง 10 แหล่งวัฒนธรรมตามประกาศที่ได้รับเลือกนั้น ถือเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่มีการสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมที่โดดเด่น
ส่วนตัวยังไม่เห็นกระแสและความเห็นจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่มีต่อฮิโนกิแลนด์ และให้เหตุผลในการคัดเลือกสถานที่นี้ว่า "เป็นไปตามมติของกรรมการ"
ต่อมา 14 พ.ค. กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ออกจดหมายชี้แจงสื่อมวลชน โดย นาย ชัยพล สุขเอี่ยม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ชี้แจงว่า ตามที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้ประกาศผลการคัดเลือกแหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแหล่งวัฒนธรรม ที่มีการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดและสร้างสรรค์ ที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน และเครือข่ายทางวัฒนธรรม โดยมีสื่อมวลชนและสื่อโซเชี่ยลมีเดีย ได้นำเสนอข้อคิดเห็นของประชาชน ในการประกาศให้ ฮิโนกิแลนด์ เป็นแหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป นั้น
สวธ.ขอเรียนชี้แจงว่า การคัดเลือกครั้งนี้ ได้จัดทำแบบสำรวจแหล่งวัฒนธรรม โดยให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สภาวัฒนธรรมและหน่วยงานต่างๆ รวบรวมข้อมูลแหล่งวัฒนธรรมที่ดำเนินการโดยภาคเอกชนและเครือข่ายทางวัฒนธรรม เสนอให้คณะผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการพิจารณาคัดเลือก ตามเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากเห็นว่า ฮิโนกิแลนด์มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่ท้าทาย มีอาคารสถาปัตยกรรมที่สร้างจากไม้หอมฮิโนกิ ตกแต่งด้วยโคมแดง เป็นแหล่งเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวิถีชีวิตของญี่ปุ่น หากผู้สนใจก็สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมแทนการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ และมีศักยภาพสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือก มีดังนี้
1. มีสถานที่ตั้งและที่อยู่ชัดเจน มีตัวอาคารมั่นคงถาวรโดยเป็นสถานที่รวบรวมองค์ความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่มีการประยุกต์ ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับบริบทสังคมอยู่เสมอ
2. เป็นสถานที่ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา องค์กรการกุศล ชุมชน หรือบุคคลทั่วไป
3. เป็นสถานที่ให้ความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ มีพื้นที่ ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับบุคคลทั่วไปได้ และมีการนำเสนอแนวทางการดำเนินการแบบวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Creative Economy)
4. มีการบูรณาการการจัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน
5. เปิดให้บริการเป็นประจำแก่เด็ก เยาวชน และผู้สนใจทั่วไปให้เข้าไปศึกษา หาความรู้ และ
6. มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของชาวไทย และชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะนำข้อท้วงติงและความคิดเห็นต่างๆของประชาชนจากสื่อมวลชนและสื่อโซเชียลมีเดีย ในการคัดเลือกแหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป เพื่อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนอีกครั้ง
ขอบคุณภาพจาก Hinoki land -BannmaihomHinoki บ้านไม้หอมฮิโนกิ