โรซาลินา มานทัวโน ช่างตัดเสื้อวัย 45 ปีในเมืองลิปาของฟิลิปปินส์ นำเศษผ้าที่มีอยู่ในร้านมาตัดเย็บเป็นหน้ากากกันฝุ่น เพื่อนำไปแจกให้ผู้ประสบภัยภูเขาไฟตาอัล ซึ่งปะทุพ่นควันตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.เป็นต้นมา
เนื่องจากราคาหน้ากากกันฝุ่นในฟิลิปปินส์พุ่งสูงขึ้นจากราคาปกติประมาณ 5 เท่า เนื่องจากฝุ่นควัน ซึ่งถูกพ่นจากปากปล่องภูเขาไฟและควันที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างลาวาและน้ำในทะเลสาบตาอัล ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากฝุ่นควันสามารถแผ่กระจายได้ไกลเกินรัศมี 60 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า หลังจากสื่อท้องถิ่นถ่ายทอดเรื่องราวของมานทัวโนที่นำเศษผ้ามาเย็บเป็นหน้ากากกันฝุ่น ทำให้คนจากหลายพื้นที่ที่อยู่นอกเขตประสบภัย ส่งเสื้อผ้ามาให้แก่มานทัวโนเพิ่มเติม ทำให้เธอสามารถตัดหน้ากากกันฝุ่นเพิ่มเป็น 400 ชิ้น ได้ในเวลาไม่นาน
ส่วนลูกเขยของเธอจะขี่จักรยานยนต์นำหน้ากากไปแจกจ่ายให้ประชาชนและอาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ
ขณะที่ Rappler สื่อของฟิลิปปินส์ รายงานอ้างอิงสำนักงานภูเขาไฟและธรณีวิทยา (Phivolcs) แห่งชาติฟิลิปปินส์ ยังไม่แจ้งยกเลิกสัญญาณเตือนภัยภูเขาไฟปะทุ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4 หรือระดับเกือบสูงสุด พร้อมแนะประชาชนต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมพร้อมอพยพให้ไกลจากจุดที่อาจเกิดภัยธรรมชาติเพิ่มเติม
แม้ว่าควันเถ้าภูเขาไฟที่ปะทุออกมาจากปากปล่องจะลดลงมามากแล้ว แต่ Phivolcs ระบุว่ายังมีปฏิกิริยาสั่นสะเทือนใต้เปลือกโลกเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงยังไม่อาจลดระดับสัญญาณเตือนภัยได้
ส่วน 'โรดริโก ดูแตร์เต' ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ออกคำสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการค้าพาณิชย์ทั่วประเทศตรวจสอบร้านค้าที่ขายหน้ากากกันฝุ่นเกินราคา พร้อมสั่งให้ดำเนินการปรับเงินผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม ดูแตร์เตถูกสื่อในประเทศวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่คำนึงถึงจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ดูแตร์เตยืนยันว่าจะเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยควันเถ้าภูเขาไฟในจังหวัดบาตังกัส แม้ว่าแพทย์ประจำตัวจะเตือนเขาให้ระมัดระวังสุขภาพ เนื่องจากช่วงเดือนที่ผ่านมา ดูแตร์เตต้องรักษาอาการเจ็บป่วยเรื้อรังซึ่งเป็นสืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางถนน
นอกจากนี้ ดูแตร์เตยังกล่าวติดตลกด้วยว่า เขาจะกลืนควันเถ้าและ 'ฉี่รด' ภูเขาไฟ ซึ่งสื่อมวลชนระบุว่า ไม่ใช่เรื่องตลก ทั้งยังกล่าวพาดพิงถึง Phivolcs ว่าเตือนภัยประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงภูเขาไฟไม่ทันต่อเหตุการณ์ แต่ทาง Philvolcs ตอบโต้สื่อว่า ประชาชนกว่า 24,000 คนสามารถอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยโดยไม่มีใครเสียชีวิตหรือว่าบาดเจ็บ ก็ต้องถือว่าการดำเนินงานประสบความสำเร็จแล้ว และดูแตร์เตยังกล่าวผ่านสื่อด้วยว่า Phivolcs ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: