สืบเนื่องจากปัญหาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่การชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงบ่ายวันที่ 16 ส.ค. 2563 มีผู้พบเห็นรถยนต์ของทางราชการที่มีการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม จนนำไปสู่การตั้งข้อสังเกตว่า มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่การชุมนุม หรือการไม่ให้บริการที่เพียงพอของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้การติดต่อสื่อสาร รวมถึงถ่ายทอดภาพและเสียง ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ โซเชียลมีเดีย และสตรีมมิ่งต่างๆ ติดขัดนานหลายชั่วโมง
สายงานกิจการโทรคมนาคม สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ชี้แจงว่า ตามที่โซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า มีรถตัดสัญญาณการสื่อสารนั้น ทาง กสทช.ขอยืนยันว่า ไม่ใช่รถของ กสทช. เพราะ กสทช. ไม่มีรถหรืออุปกรณ์นี้ ที่สำคัญคือกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจกระทำการตัดสัญญาณ
ประเด็นต่อมา เรื่องสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ใช้งานไม่ได้ แม้แต่การส่งไลน์ก็ติดขัดนั้น ขอชี้แจงว่า เนื่องจากการชุมนุมเมื่อวานนี้มีคนจำนวนมากไปอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และใช้โทรศัพท์มือถือพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดภาพและเสียง (Live) การทำสตรีมมิง พร้อมกันหลายคนในเวลาเดียวกันในพื้นที่เดียวกัน จึงทำให้เสาสัญญาณที่มีอยู่ในพื้นที่นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน
อีกทั้ง ในกรณีมีการจัดงานใหญ่ๆ ที่รวมคนจำนวนมาก เช่น งานกาชาด งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ผู้จัดจะประสานมาที่ กสทช. ระบุว่า จะมีการใช้งานสูงในช่วงเวลาการจัดงานดังกล่าว เพื่อให้ กสทช.ประสานขอรถขยายสัญญาณกับ Operator หรือ ผู้ให้บริการโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต จัดรถขยายสัญญาณไปในพื้นที่ เป็นต้น
ดังนั้น ในกรณีที่เกิดปัญหาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้เมื่อวานนี้ จึงเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ หนึ่ง มีคนใช้เยอะสัญญาณโทรศัพท์จึงตก สอง มีไลฟ์สด ทำสตรีมมิงมาก การใช้ดาต้าเยอะมาก จนไม่เพียงพอ และ สาม ขาดการเตรียมการประสานงาน
พร้อมกันนี้ ยังให้ข้อมูลว่า ปกติ กสทช.จะมีรถตรวจสอบสัญญาณ ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ของ กสทช.ชัดเจน วิ่งตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตเป็นประจำทุกเดือนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดังนั้น รถที่มีการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างที่โซเชียลฯ สงสัย หากมีตราสัญลักษณ์ กสทช.นั้นคือรถตรวจสัญญาณ และไม่ใช่รถตัดสัญญาณ
'เพจตำรวจ' แจงการใช้งาน รถขยายสัญญาณ-รถตัดสัญญาณ-อุปกรณ์ตัดสัญญาณโดรน
ขณะที่เพจชื่อ 'สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ' เปิดเผยวันนี้ (17 ส.ค. 2563) ถึงข้อสงสัยของโซเชียลถึงรถที่มีเสาสูงๆ และมีตราสำนักงานตำรวจ ว่า รถที่มีเสาสูงในภาพ คือ รถสนับสนุนการสื่อสาร ระบบ LTE (Long Term Evolution) ของตำรวจสื่อสาร สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภารกิจคือการดำรงการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่ใช้วิทยุระบบ LTE ซึ่งไม่ผ่านเครือข่ายของค่ายมือถือทั่วไป รถปฏิบัติการใช้สำหรับการขยายความสามารถในการสื่อสาร เป็นห้องควบคุมการสื่อสาร ซึ่งผ่านการใช้งานที่เห็นกันทั่วไปเช่น ภารกิจถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และเมื่อเร็วๆ นี้คือการปฏิบัติการร่วมกับหน่วยต่างๆ ในการติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ยิงตำรวจเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
ส่วนรถสีดำที่มีเสาเยอะๆ บนหลังคานั้น เป็นรถสำหรับการตัดสัญญาณมือถือเพื่อทำการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD 191) กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
นอกจากนี้ยังอธิบายเรื่อง อุปกรณ์ต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti Drone) ว่า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เป็นคลื่นความถี่ เพื่อควบคุมการบินจากระยะไกล ทั้งนี้การส่งสัญญาณในรูปแบบของการสร้างสัญญาณรบกวนและกวาดในย่านความถี่ดังกล่าวจะทำให้การควบคุมการบินของโดรนถูกตัดขาด เพื่อประสิทธิภาพและความแม่นยำของการใช้งานอุปกรณ์ Anti-Drone ยังอาจใช้สายอากาศแบบทิศทางเข้าช่วย เพื่อให้การรบกวนพุ่งตรงไปยังโดรนเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การใช้งานอุปกรณ์ Anti-Drone มีทั้งแบบขนาดเล็กพกพาได้ (Portable) เพื่อให้เคลื่อนย้ายนำไปปฏิบัติการด้วยคนได้ อาทิ อุปกรณ์พวก DroneGun และขนาดใหญ่ที่เป็นระบบ (System) เพื่อติดตามและยิงสัญญาณรบกวนใส่โดรนที่เข้ามาในรัศมีได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งโดยปกติแล้วในพื้นที่ของกรุงเทพฯ แทบจะไม่มีพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้บินโดรนได้เลย (มีแต่น้อยมา) ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการบังคับอากาศยานไร้คนขับไม่ให้ทำการบินในพื้นที่ชุมนุม เพราะมิอาจทราบได้ว่าเป็นของผู้ใด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
'เพื่อไทย' เตรียมชงเรื่องกรรมาธิการในสภาฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2563 ระบุถึงปัญหาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้ในพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่นในช่วงที่ผ่านมา ผู้ให้บริการเครือข่ายจะสามารถขยายสัญญาณการใช้งานเพื่อไม่ให้ติดขัดได้ และยิ่งมีคนใช้เยอะยิ่งน่าจะดีกับบริษัทผู้ให้บริการที่จะได้รับรายได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตนจะรายงานปัญหานี้ต่อคณะกรรมาธิการ ในสภาผู้แทนราษฎรทุกคณะที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เชิญผู้ให้บริการทุกรายรวมถึงผู้กำกับดูแล อาทิ กสทช. กระทรวงดีอีเอส มาชี้แจงว่ามีการกระทำที่ลิดรอนสิทธิ์ของผู้ใช้บริการในพื้นที่ชุมนุมหรือไม่
โดยมีข้อความดังนี้
"วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับสัญญาณโทรศัพท์และ Mobile Internet ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
"ตั้งแต่ช่วงเย็นโทรศัพท์ทุกค่ายมีปัญหาเหมือนกันหมด คือ "แป้ก" โทรไม่ได้ ส่งไลน์ไม่ได้
"โดยปกติเมื่อ traffic มากๆ แบบนี้ Operators ทุกเจ้าสามารถขยายช่องสัญญาณเพื่อให้การใช้งานราบรื่น
"ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา ขนาดวันปีใหม่ countdown กันคนหลายหมื่น เขาก็ส่งรูปกัน "ลื่นปรื๊ดๆ"
"เรื่องนี้ผมจะเสนอให้มีการตรวจสอบและเรียกร้องผู้บริการทุกเจ้า กสทช. และกระทรวง DE จัดการเรื่องนี้ให้โปร่งใส
"อย่าให้คนเขาคิดว่าท่านสมคบคิดกัน เพราะผมเองก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ คนยิ่งใช้บริการมากๆ ท่านยิ่งมีรายได้
"ผู้ให้บริการต้องมีจริยธรรมในวิชาชีพ อย่าให้ใครเขาติฉินนินทาได้ว่าท่านยอมเสียชื่อเสียงและรายได้เพื่อความสัมพันธ์แบบใต้โต๊ะเด็ดขาด
"เรื่องนี้ผมจะรายงานต่อคณะกรรมาธิการทุกคณะที่เกี่ยวข้องเพื่อเรียกผู้ให้บริการทุกเจ้า และผู้กำกับดูแลอย่าง กสทช.มาตรวจสอบในเรื่องนี้ว่ามีการกระทำที่ลิดรอนสิทธิ์ของผู้ใช้บริการที่มาร่วมชุมนุมหรือไม่
"ผมคิดว่าทุกฝ่ายต้องชี้แจงเพื่อความโปร่งใสครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: