นายนิกร สุกใส ว่าราชการจังหวัดยโสธร เผยถึงการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟยโสธร 2562 จังหวัดยโสธรร่วมกับเทศบาลเมืองยโสธรปละการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปีนี้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟตั้งแต่วันที่ 8-12 พฤษภาคมนี้ โดยในวันที่ 8-9 พ.ค.จะมีการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอปของขึ้นชื่อเมืองยโสธรเช่นปลาส้ม,หมอนขิดและสินค้าอื่นๆ อีกมากมายพร้อมทั้งมีการแสดงทางวัฒนธรรม แสดงตำนานพญาคันคาก ชมการตกแต่งบั้งไฟโบราณ ที่วิมานพญาแถน

ส่วนในวันที่ 10 พ.ค. มีการตั้งโชว์บั้งไฟโบราณ การแสดงแสง สี เสียง ละครบุญบั้งไฟ อีกทั้งมีการประกวดกองเชียร์กว่า 30 คณะ ซึ่งแต่ละคณะจำนำเสนอวัฒนธรรมประเพณีจังหวัดยโสธร บนเวทีตลอดแนวถนนแจ้งสนิท ระยาทางกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในกิจกรรมบนเวทีและด้านหน้าเวทีด้วย นอกจากนี้ยังมีขบวนบั้งไฟสวยงามตั้งเรียงตามท้องถนน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามและถ่ายภาพ พร้อมทั้งชมการประกวดธิดาบั้งไฟโก้ที่เวทีกลาง หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร

ส่วนวันที่ 11 พ.ค. นักท่องเที่ยวจะได้ชมขบวนแห่บั้งไฟสวยงามจากคุ้มวัดต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมทั้งชมขบวนบั้งไฟโบราณจาก 9 อำเภอของจังหวัด รวมทั้งการประกวดเซิ้งบั้งไฟจากอำเภอต่างๆเพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และวันที่ 12 พ.ค. เป็นการแข่งขันจุดบั้งไฟแสนขึ้นสูง จุดบั้งไฟแฟนซีกว่า 50 บั้ง ที่สำคัญในปีเป็นปีครบรอบ 25 ปีความสัมพันธ์ระหว่างจ.ยโสธร-เมืองชิชิบุ จ.ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองคู่แฝดที่มีประเพณีการจุดบั้งไฟคล้ายกับจังหวัดยโสธรโดยเมืองชิชิบุจะนำบั้งไฟญี่ปุ่นมาร่วมจุดแสดงโชว์ในครั้งนี้ด้วย 

นายสุธา บรรตานึก ประธานหอการค้าจังหวัดยโสธร กล่าวว่า งานบุญบั้งไฟปีจังหวัดยโสธรปี 2562 ทางหอการค้าจังหวัดยโธรได้แจ้งข่าวสารงานบุญบั้งไฟไปทั่วประเทศ โดยปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 250,000 คน มีเม็ดเงินสะพัดภายในจังหวัดกว่า 100 ล้านบาท ส่วนโรงแรมและที่พักในเขตอำเภอเมืองยโสธรถูกจองไว้เต็มหมดแล้ว ขณะนี้กำลังขยายฐานให้นักท่องเที่ยวไปพักตามอำเภอต่างๆของจังหวัดยโสธรและจังหวัดใกล้เคียงเช่น ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญและอุบลราชธานี

นายสุธา กล่าวว่า ปีนี้จังหวัดยโสธรจะเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค เพื่อเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานประเพณีบุญบั้งไฟ ได้เข้าชมความยิ่งใหญ่อลังการของแหล่งความรู้ ที่นำเสนอด้วยระบบ 4 มิติ สำหรับพิพิธภัณฑ์พญานาค เป็นอาคารรูปทรงพญานาคมีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในโลก สูง 29 เมตร ยาว 111.5 เมตร กว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 560 เมตร รอบตัวพญานาคจำลองเป็นก้อนเมฆสีฟ้าโดยรอบ ภายในอาคารบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาตำนานของพญานาคและงูต่างๆทั่วโลก บอกเล่าจารีตประเพณีสำคัญของภาคอีสานเกี่ยวกับพญานาค มีรูปแบบการนำเสนอแบบ 4 มิติ แบ่งเป็น 5 โถงที่สวยงามอลังการและติดตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำตลอดตัวอาคาร นอกจากนี้ภายในวิมานพญาแถนยังประกอบไปด้วย อาคารพญาคันคากที่โด่งดังและเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวต่างแวะมาเยี่ยมชมกันอย่างล้นหลาม เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี