พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการดำเนินคดีกับแฮกเกอร์ 9near ที่เป็นทหารยศจ่าสิบโท ต้องส่งตัวให้ตำรวจดำเนินการหรือไม่ ว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นไป ตนได้ย้ำแล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย เขามีกระบวนการอยู่ไม่ใช่หรือจ๊ะ
เมื่อถามว่า จะมีการช่วยเหลือกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับสื่อว่า แล้วใครจะช่วยล่ะ จะรู้ไหมเล่า ผมไม่ช่วยคนนึงล่ะ แล้วใครจะช่วยเล่า ก็เป็นเรื่องของการกระทำความผิดรายบุคคล ทั้งนี้กฎหมายก็มีอยู่แล้ว ก็สามารถที่จะแก้คดีได้ ทนายก็มีหมด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าว มินอ่องลาย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมา ติดต่อทางการไทยเพื่อขอให้ถอนรายชื่อลูกสาวออกจากคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ค้าอาวุธข้ามชาติ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ถามกับสื่อว่า ใครบอกล่ะ เรื่องนี้ตนยังไม่ได้ยินเลย เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ตามก็ต้องทำข้อเท็จจริงก่อนว่ามีหลักฐานไหม มีเอกสาร หรือเรื่องมาหรือไหม ถ้าไม่มีแล้วตนจะไปทำอะไรได้เล่า
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่มีบางพรรคการเมืองหาเสียงโดยใช้นโยบาย จะแก้มาตรา 112 พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับสื่อว่าแล้วพวกเราคิดอย่างไรเล่า ควรไหมเล่า เมื่อสื่อตอบกลับว่าไม่ควร พูดดังๆ แล้วเอาไปเขียนอ่านด้วยนะ พร้อมกล่าวต่อว่า มันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่เวลา คนทั้งแผ่นดินเขาเทิดทูน แล้วคุณจะทำไปเพื่ออะไร
พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางมายังวัดหงส์รัตนารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ 2 ในการลงพื้นที่วันนี้ โดยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงวัดหงส์รัตนารามวรวิหาร ได้เดินทางไปยังกุฏิ พระเทพปริยัติมุนี หรือ มีชัยวีรปัญโญ จ้าอาวาสวัด สักการะพระประธาน หลวงพ่อแสนหรือพระแสนเมืองเชียงแตงพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง ประจำพระอุโบสถ จากนั้นได้สักการะหลวงพ่อทองคำสิ่งศักดิ์สิทธิ์เก่าประจำวัด อายุกว่า 700 ปีมีพุทธคุณเรื่องอายุมั่นขวัญยืน
โดย พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า ขอพรให้ประเทศชาติและประชาชน และขออวยพรให้ตัวเองนิดหน่อย เชื่อมั่นในการทำความดีกุศลที่ดี พระจะต้องคุ้มครอง วันนี้ตนมาทำบุญไม่ขอพูดถึงเรื่องการเมือง
เมื่อถามถึงการเข้าพบ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และได้พูดคุยกว่า 1 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็เป็นการเข้าไปตามปกติ เพราะท่านเคยเป็นผู้บังคับบัญชา ก็คุยกันเรื่องเก่าๆ เรื่องเดิมๆ สนุกสนานกันดีไม่มีอะไร การเมืองก็ไม่พูดกัน
เมื่อถามต่อว่า ได้อวยพรอะไร พล.อ.ประวิตร หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็อวยพรให้ท่านสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จ ฉันจะอวยพรอะไรอย่างอื่นได้มากกว่านี้หรือไง คําอวยพรก็ต้องเป็นแบบนี้ พร้อมย้ำว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง การเมืองเลิกพูดกัน เคารพเหมือนเดิม แต่ไม่พูดกันเรื่องการเมือง
โดยภายหลังการส่งน้ำพระ ที่บริเวณสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้การทำงานประสบความสำเร็จ ทำจิตใจให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนประเทศก็จะ สำเร็จๆ ขอให้ทุกคนร่วมกันทำให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง การทำความดีทำได้ตลอดเวลา ทั้งทางจิตใจ ต้องบริหารจิตใจตัวเองให้ดี ซึ่งตนสวดมนต์มาโดยตลอด พยายามสวดให้ได้มากที่สุดพยายามตรวจมาหลายปีแล้ว ก่อนจะบอกว่าตนนั้นบวชเรียนมา 4 ครั้ง โดยเป็นการบวชเณรและบวชพระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แต่ไม่ใช่วัดหงษ์ ตนบวชที่วัดราชโอรส
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีโอกาสจะบวชอีกครั้งหรือไม่ เพราะอายุเยอะแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวติดตลกว่า พูดจาไม่สุภาพ ไม่แก่บ้างก็แล้วไป ตัวเองยังไม่แก่มาก ยังทำประโยชน์ได้อีกพอสมควร สมองยังดีอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร ว่า ได้สั่งการไปเยอะแล้ว และบางอย่างก็มีหลักการอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องสั่งอะไรเพิ่มเติม แต่เมื่อมีคนเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่เยอะก็เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับประชาชนด้วยว่า จะเชื่อฟังหรือไม่ ทุกคนอย่างมีกฎหมายทุกตัว คนเป็นพันเป็นหมื่น เจ้าหน้าที่จะสู้ได้หรือ
ทั้งนี้โดยก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปยังวัดระฆังฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ทำอะไรตนก็นึกถึงประชาชน แม้ไม่ได้ไปเยี่ยมประชาชนทุกจังหวัด แต่ไปด้วย ถนน เส้นทางน้ำ รถไฟ ซึ่งเป็นผลงานที่ทำ เป็นการไปเยี่ยมแทนตัวเองในฐานะนายกรัฐมนตรี
ก่อนจะถามสื่อมวลชนกลับว่า นี่ล่ะใครเป็นคนทำ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวย้ำว่า ตนยังแข็งแรง ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่าแช่งตนทุกวันหรือ ตนเองแข็งแรงและอารมณ์ดีด้วย พร้อมทำท่าเบ่งกล้าม และกล่าวว่า หากใจไม่สู้จะอยู่มา 8 ปีหรือ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากสื่อฯที่มารอส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นรถ และระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่บนรถได้กล่าวติดตลกว่า รักนะจ๊ะ เมื่อกี้ลืมบอก