ไม่พบผลการค้นหา
จำคุก 1 เดือน “เพนกวิน” ละเมิดอำนาจศาล แต่เนื่องจากรับสารภาพ และไม่เคยทำผิดข้อหานี้ รวมทั้งยังเป็น นศ.ลดโทษเหลือ กักขัง 15 วัน ด้าน ” เพนกวิน“ อ้างไม่เจตนาสร้างความวุ่นวาย

ศาลอาญาพิพากษา จำคุก 1 เดือน พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน กรณีละเมิดอำนาจศาล ปฏิบัติตนไม่เรียบร้อยในห้องพิจารณา แต่เนื่องจากรับสารภาพ จึงเหลือจำคุก 15 วัน และพิจารณาตามสถานะนักศึกษาไม่เคยทำผิดมาก่อน มีความรู้สำนึกในการทำผิด รวมทั้งข้อหาดังกล่าว กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน สุดท้ายศาบจึงพิจารณาให้ กักขัง 15 วันตามกฎหมายอาญา มาตรา 23 

โดยจากการไต่สวนพริษฐ์ให้เหตุผลต่อผู้พิพากษาว่าในวันดังกล่าว มีการพิจารณาคดีจำเลยหลายคน และพริษฐ์โดนพิจารณาใน 2 เรื่อง แต่ไม่มีโอกาสได้แย้ง หรือเรียกร้องขอประกัน จึงใช้โอกาสยืนขึ้นแถลงกลางห้องพิจารณาคดี ผู้พิพากษาเล็งเห็นแล้วว่าจะเกิดความวุ่นวายจึงลงจากบัลลังก์ แต่พริษฐ์ยังยืนกรานจะทำพฤติกรรมต่อเนื่อง แม้ตำรวจศาลเข้ามาห้าม โดยมีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวจากฝ่ายไอที ว่านายพริษฐ์ ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมจริง จึงสั่งลงโทษตามความผิด


เขียนจดหมายได้แต่ห้ามเผยแพร่

โดยก่อนหน้านี้ทนายได้แย้งต่อศาลว่าเหตุใดพริษฐ์ไม่ได้อ่านหนังสือเรียน ที่ผ่านมาราชทัณฑ์ไม่อนุญาตให้มารดาของพริษฐ์ฝากหนังสือเรียนไว้ ผู้พิพากษาแจ้งกลับมาว่าสามารถทำได้ แต่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของราชทัณฑ์ นอกจากนี้ศาลได้เตือนถึงกรณีการเขียนจดหมายแนวทางการต่อสู้ของแกนนำว่าสามารถทำได้ แต่ห้ามเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งทางทนายยืนยันว่าหากไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ก็ยังสามารถเผยแพร่ได้

สำหรับการไต่สวนวันนี้ พริษฐ์ ถูกควบคุมตัวมาโดยให้นั่งรถวีลล์แชร์ มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่าพริษฐ์ค่อนข้างอ่อนแรง ดมยาดมตลอดเวลา โดยทันทีที่เข้ามาในห้องแม่ของพริษฐ์ซึ่งมีโอกาสพบหน้าลูกชายเป็นครั้งแรก หลังประกาศอดอาหารได้เข้ามาสวมกอดให้กำลังใจ 


ยืนยันไม่มีเจตนาป่วนศาล

ก่อนที่พริษฐ์ได้แถลงต่อศาลในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิการประกันตัว แต่ศาลระบุว่าการไต่สวนครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาลไม่เกี่ยวกับคดีอื่น ก่อนอนุญาตให้พริษฐ์ชี้แจงใน 5 นาที จากนั้นศาลได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งพริษฐ์ชี้แจงว่าไม่ได้เจตนาสร้างความวุ่นวาย เพียงแต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมและทราบว่าการกระทำดังกล่าวศาลสามารถลงโทษตนได้ และไม่เสียใจที่เสียอิสระภาพแต่เสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้าน กฤษฎางค์ นุสจรัส ทนายความเปิดเผยว่าคดีนี้ พริษฐ์สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน แต่เบื้องต้นยังไม่ได้หารือกัน โดยจะนำเรื่องนี้ไปคุยกันอีกครั้งเมื่อเข้าไปเยี่ยมภายในเรือนจำ ส่วนการไต่สวนกรณีอานนท์ นำพา แกนนำราษฎรเขียนจดหมายว่ากังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยจากการถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เรียกตัวไปตรวจโควิด-19 ยามวิกาล ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กฤษฎางค์เปิดเผยว่าการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลนัดฟังคำสั่งในวันที่ 29 มีนาคม เวลา 09.00 น.