ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกิจกรรมสาธิตการทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อใช้สำหรับทำความสะอาดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนและนำความรู้ไปขยายผลยังชุมชนต่างๆ ให้สามารถผลิตใช้เองได้
โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่เป็นปัญหาและขาดแคลน นอกจากเรื่องของหน้ากากอนามัยแล้วยังมีเรื่องแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความต้องการใช้สูงเพื่อเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด จึงประสานโรงงานผลิตทั้ง 26 โรงงานทั่วประเทศให้สามารถนำเอทิลแอลกอฮอล์ สำหรับเติมน้ำมันเบนซินและก๊าซโซฮอล์ ซึ่งจากเดิมที่ไม่สามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ก็จะประสานเพื่อขอให้ได้รับการยกเว้นและหากนำมาใช้ได้ จะมีปริมาณที่เหลือจากเอทานอลประมาณ 1 ล้านลิตร ที่สามารถนำมาใช้ผลิตเจลล้างมือที่กำลังขาดแคลนในขณะนี้ได้
โดยในวันที่ 9 มี.ค.นี้ จะประชุมหารือว่าเอทานอล 1 ล้านลิตร จะมีขั้นตอนการผลิต การแจกจ่าย หรือการควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนได้อย่างไร
เมื่อถามถึงกระแสข่าวแรงงานไทยที่กลับจากเกาหลีใต้หลบหนีการคัดกรองและกักตัวตามระยะเวลา 14 วัน จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงมาตรการดูแลของรัฐบาล นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทราบว่าเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขรับทราบปัญหาและเร่งติดตามตัวอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย
เมื่อถามย้ำว่า การที่รัฐบาลมีมาตรการเข้มข้นแต่ยังมีการหลบเลี่ยงเกิดขึ้น ทำให้มองว่าเป็นช่องโหว่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ แต่ตนไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง จึงไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนอย่างไรก็ตามเข้าใจว่าทุกฝ่ายหวาดวิตกและมีความกังวลใจสูง เมื่อไหร่ที่มีกลุ่มเสี่ยงสังคมก็จะตื่นตระหนก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขในฐานะแม่งานหลัก ได้ติดตามเรื่องนี้และดำเนินการอย่างใกล้ชิด
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่าเอาไม่อยู่และสร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชน ว่า ยอมรับว่าเรื่องการสื่อสารของเรายังมีปัญหา ดังนั้นต้องมีการปรับในเรื่องนี้ต่อไป แต่ขณะนี้จากที่มีการงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ผ่านมา ยังยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ตอนนี้ข่าวมาจากหลายด้าน เชื่อว่าจะมีการรายงานในที่ประชุม ครม.ครั้งต่อไป ยืนยันรัฐบาลกำลังติดตามแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาตรการเตรียมแจกเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19 นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยืนยันรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือในหลายส่วน แต่เข้าใจว่าจุดประสงค์เดียวกันคือการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 ขณะที่การใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ก็มีงบประมาณจำนวนหนึ่งจากกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว