นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมค้าปลีกไทย ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เห็นชอบแนวทางในการให้สิทธิประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์สนามในความรับผิดชอบ โดยให้แยก 3 สัญญากิจการสินค้าปลอดอากร หรือ Duty Free ออกจาก กิจการเชิงพาณิชย์ และกิจการบริหารเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้า หรือ Pick-up Counter แต่ยังกำหนดเงื่อนไขสัมปทานดิวตีฟรีสนามบินสุวรรณภูมิเป็นแบบรายเดียว เป็นสิ่งที่สมาคมฯ ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการผูกขาดเสี่ยงต่อการทุจริตคอรัปชั่น ทอท.ควรกำหนดสัมปทานเป็นแบบหมวดหมู่ 4-5 สัญญา เช่น เครื่องสำอางค์, แฟชั่น, บุหรี่สุรา, เครื่องใช้ไฟฟ้า, และโอท็อป และสำคัญสุดคือต้องเพิ่มค่าธรรมเนียมสัมปทานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ตาม จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 15 โดย ทอท. ห้ามเอาผลประโยชน์ชาติมาแลกกับเหตุผลบริหารจัดการง่าย
ประธานสมาคมค้าปลีก ระบุอีกว่า ในส่วนของกิจการเชิงพาณิชย์ ทอท. ควรเข้ามาบริหารจัดการเอง แก้ปัญหาผู้ได้รับสัมปทานกินหัวคิว ทำให้ราคาสินค้าในสนามบินแพงอย่างปัจจุบัน ขณะที่กิจการบริหารเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้า หรือ Pick-up Counter ต้องกำหนดให้ชัดเจนห้ามผู้รับสัมปทานดิวตี้ฟรีเข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะจะเห็นข้อมูลทางการค้าของคู่แข่ง และจะช่วยดันให้เกิดดิวตี้ฟรีดาวน์ทาวน์ด้วย ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีทั่วโลกสนใจเข้ามาลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ราย เช่น ดีเอฟเอฟ และล็อตเต้
นอกจากนี้สมาคมฯ เรียกร้องว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ทีโออาร์ของสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูมิภาค ทั้ง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ ต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน ซึ่งหากปลดล็อกได้ตามที่สมาคมฯเรียกร้องจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง