นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนโยบายสั่งการเร่งด่วนไปยังกรมการขนส่งทางบก ให้ไปหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการตัดคะแนนจากใบขับขี่ หากผู้ขับขี่ประเภทรถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่วนบุคคลทำผิดข้อบังคับตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ว่าด้วยระเบียบและข้อบังคับของความผิด ของการตัดคะแนน เมื่อได้ข้อสรุปจะต้องกลับมาเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาเงื่อนไขรายละเอียดก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ภายในเดือนมกราคมนี้ หาก คจร.เห็นชอบเตรียมประกาศออกมาเป็นกฎกระทรวง เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 2563
ทั้งนี้ รายละเอียดการกำหนดข้อบังคับการตัดคะแนนนั้น หากทำผิดถูกตัดคะแนนครบ 100 คะแนนแรก ผู้ถือใบอนุญาตขับขี่จะถูกพักใบอนุญาตทันที 1 ปี หลังครบ 1 ปี หากยังต้องการมีใบขับขี่อีกครั้งจะสามารถกลับมาทดสอบและสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตได้ แต่เมื่อกลับไปขับขี่อีกและกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหักคะแนนจนครบ 100 คะแนนเป็นครั้งที่ 2 ผู้ที่ถือใบอนุญาตจะไม่สามารถกลับมาสอบ เพื่อขอรับใบขับขี่ได้อีกตลอดชีวิต
และยังได้ให้กรมการขนส่งทางบกไปดูเรื่องของมาตรการการออกหลักสูตรสอบใบขับขี่รถทุกประเภทให้มีการปรับปรุงมาตรฐานของการทดสอบ และข้อสอบใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยให้นำตัวแบบจากประเทศที่ประสบความสำเร็จเรื่องสถิติอุบัติเหตุน้อยมาเป็นแบบทดสอบ หรือเพิ่มในข้อสอบ เบื้องต้นพบว่าประเทศที่ได้มาตรฐาน เช่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น ทั้งนี้ ให้นำมาตรฐานต่างๆ มาใช้และบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นคนบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจร วางมาตรการตัดคะแนนใบขับขี่ร่วมกัน มั่นใจว่าการใช้วิธีตัดคะแนนจะเป็นการช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนได้อย่างแน่นอน เพราะผู้ขับขี่จะมีความระมัดระวังมากขึ้น
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมขนส่งฯ ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการตัดคะแนนใบขับขี่กรณีมีการกระทำความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งมีการดำเนินการคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 80-90 มั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปและสามารถนำมาปฎิบัติบังคับใช้ให้เกิดขึ้นได้จริงภายในกลางปี 2563 แน่นอน
ซึ่งข้อบังคับของ พ.ร.บ.จราจร จะเน้นการตัดแต้มคะแนนพฤติกรรมของคนขับรถ เช่น ขับรถด้วยความเร็ว แซงในที่คับขัน เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องกำหนดคะแนนที่ตัดตามฐานความผิดแต่ละประเภทว่ามีคะแนนเท่าใด เมื่อถูกตัดแล้ว ผู้ถูกตัดแต้มสามารถเช็คคะแนนที่ถูกตัดได้จากแอปพลิเคชันที่ตำรวจเปิดให้โหลด หากเห็นว่าถูกตัดคะแนนเท่าใด สามารถมาอบรมกับกรมการขนส่งทางบกแต่ละฐานความผิดที่ถูกตัดคะแนน เพื่อให้คะแนนกลับมาเช่นเดิมได้ โดยการอบรมเพื่อเรียกแต้มคะแนนคืน ทางกรมการขนส่งฯ เตรียมหลักสูตรที่มีการปรับปรุงเพื่ออบรมไว้แล้ว
ส่วน พ.ร.บ.ขนส่งทางบกนั้น กรมการขนส่งทางบกจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในกรณีตัดแต้มของรถโดยสารสาธารณะเป็นหลัก หากรถโดยสารสาธารณะโดนตัดคะแนนจากตำรวจมาแล้วอาจจะโดนความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบกด้วย ซึ่งจะเป็นความผิดกรณีฐานความผิดของพฤติกรรมคน และสภาพรถ เช่น กรณีที่มีการตัดแต่ง ต่อเติมรถโดยสารสาธารณะผิดที่ได้รับอนุญาต หรือรถที่มีควันดำ สภาพรถไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งความผิดของรถโดยสารสาธารณะนอกจากคนขับจะโดนตัดแต้มแล้วเจ้าของรถโดยสารสาธารณะที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการก็จะถูกตัดแต้มด้วยเช่นกัน ซึ่งการตัดแต้มทางกรมการขนส่งทางบกจะสามารถเช็คได้เช่นกันว่าบุคคลใดถูกตัดแต้มเท่าใดกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อมาดูว่าจะต้องมีการพักใบอนุญาตหรือไม่ โดยขั้นตอนการที่จะนำระเบียบข้อบังคับนี้มามีผลบังคับขั้นต่อไป ทางกรมการขนส่งทางบกจะต้องเปิดเวที เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียมาร่วมแสดงความคิดเห็น