ไม่พบผลการค้นหา
พปชร.ถอยแล้ว ให้ตั้ง กมธ.สอบเงินกู้ สยบรอยร้าวพรรคร่วม วิรัช เผยวิปรัฐบาลเตรียมเคาะครั้งหน้า คาดตั้ง กมธ.ได้ 10-11 มิ.ย.นี้ มั่นใจปัญหาภายในไม่ทำให้รัฐบาลระส่ำ ยัน เรียกประชุม ส.ส.ทำตามหน้าที่ ไม่คิดวัดกำลังกับใคร

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้ ว่า จะมีการหารือในที่ประชุมวิปครั้งหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ตั้งกรรมาธิการฯ ชุดนี้ โดยขณะนี้สองพรรคได้ยื่นญัตติไปแล้วคือภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ ซึ่งพลังประชารัฐก็ไม่ขัดข้อง ส่วนที่มีการให้สัมภาษณ์คัดค้านก่อนหน้านี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถตั้งกรรมาธิการฯได้ในวันที่ 10 หรือ 11 มิ.ย.นี้ แต่ไม่น่าะทันในการประชุมสภาสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีวาระที่ต้องพิจารณาเรื่องด่วนของรัฐบาลคือ พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาทก่อน 

นายวิรัช ยืนยันด้วยว่า ไม่มีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ดังจะเห็นได้จากการลงมติที่ผ่านมาซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเสียงของรัฐบาลก็มีความเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งไม่เชื่อว่าจะเกิดปัญหาภายในจนทำให้รัฐบาลระส่ำระสาย ส่วนความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐนั้น เชื่อว่าถึงเวลาสามารถพูดคุยกันได้ และตนเองก็ไม่เคยคิดวัดพลังกับใคร เพียงแต่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

"การประชุม ส.ส.ที่สภาเมื่อวานนี้ไม่ได้วัดกำลังกับใคร แต่เป็นการเรียกประชุมปกติ ที่เลื่อนมาเพราะวันอังคารจะงดการประชุมส่วนวันพุธติดวันหยุดราชการจึงเลื่อนมาประชุมเมื่อวานนี้ ไม่ได้มีอะไรแปลกประหลาดเลย ผมจึงไม่คิดว่าปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้รัฐบาลระส่ำระสาย ส่วนจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารพรรคหรือไม่นั้น ต้องรอดูผลประชุมใหญ่ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะประชุมใหญ่เมื่อไหร่" นายวิรัช กล่าว

“การุณ” เตือน “ประยุทธ์” อย่ากลัวการตรวจสอบจากประชาชน

นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาที่ผ่านมาเพื่อพิจารณาพระราชกำหนดกู้เงินจำนวน 1.9 ล้านล้าน เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ ตลอด 5 วันที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านได้ท้วงติง และมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการใช้เงินกู้จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลไม่ตั้งใจฟัง ไม่ให้ความสำคัญมากนัก การพิจารณาจึงเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น รวมทั้งยังไม่มีรายละเอียดการใช้เงิน ไม่มีแผนงานรองรับ เชื่อขนมกินได้ว่าอาจแก้ปัญหาไม่ถูกจุด และทำประเทศทรุดหนักกว่าเดิม

ช่วงวิกฤตที่ผ่านมา รัฐบาลทำงานแบบรัฐราชการ มีความบกพร่องในการใช้เงินในการเยียวยาที่ไม่ทั่วถึงและล่าช้า ประชาชนได้รับความลำบาก หลายครอบครัวรายได้ไม่เพียงพอรายจ่าย รอเงินเยียวยาจากรัฐบาลก็ไม่รัฐได้ ส่งผลให้ต้องประชาชนหลายคนฆ่าตัวตาย แต่รัฐบาลก็ไม่ให้ความสำคัญหรือใส่ใจในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ปล่อยให้ประชาชนตกระกำลำบาก มีประชาชนหลายล้านคนเข้าไม่ถึงการเยียวยาของรัฐ 

นายการุณ กล่าวด้วยว่า การพิจารณาที่ผ่านมาถึงแม้ฝ่ายนิติบัญญัติจะเห็นความบกพร่องอย่างมากมาย แต่ก็ไม่อาจแก้ไขเพิ่มเติมได้ เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ให้ลงมติเพียงรับหรือไม่รับ ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือให้สภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นตัวแทนของประชาชนตั้งกรรมาธิการวิสามัญติดตามและตรวจสอบการใช้เงินของประชาชน ซึ่งทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ

“การเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพรรคฝ่ายค้านเห็นว่า พระราชกำหนดกู้เงินจำนวน 1.9 ล้านล้าน มีข้อบกพร่องมากมาย รวมทั้งเป็นการใช้งบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน อาจเกิดความไม่โปร่งใสได้ แต่รัฐบาลโดยเฉพาะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับไม่ยอมรับการตรวจสอบจากตัวแทนของประชาชน ทั้งๆที่เป็นเงินของประชาชน อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านจะใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบการใช้เงินครั้งนี้อย่างเข้มข้นแบบหายใจรดต้นคอ จะไม่ยอมปล่อยให้รัฐบาลใช้เงินของประชาชนตามอำเภอใจ และใช้เงินเพื่อสร้างฐานทางการเมืองให้กับพรรคฝ่ายรัฐบาล เพราะเราต้องการให้เงินทุกบาทต้องใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด การจะเอาเงินประชาชนไปแสวงประโยชน์และหาเสียง ฝ่ายค้านไม่ยอมอย่างแน่นอน” นายการุณ กล่าว

อ่านเพิ่มเติม