ไม่พบผลการค้นหา
'ศรีสุวรรณ' จี้ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ รฟม.-กฟน.-กทม. ปมสร้างรถไฟฟ้าสีชมพูทำชาวบ้านเดือดร้อน

วันที่ 30 พ.ย.66 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศรีสุวรรณ จรรยา ได้เดินทางมายื่นคำร้องถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบและสั่งให้ กทม.-กฟน.และ รฟม.แก้ไขปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่สร้างความเดือดร้อนและความเสี่ยงภัยต่อประชาชนคนเดินเท้า คนพิการ และผู้ใช้รถใช้ถนน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ได้ให้เอกชนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (มีนบุรี-ศูนย์ราชการนนทบุรี) ความยาว 34.5 กม.จำนวน 30 สถานี ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองเปิดให้บริการประชาชนฟรีอยู่ในขณะนี้นั้น ปรากฏว่ามีประชาชนร้องเรียนมายังองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินอย่างมากว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนและเสียหายและสร้างความเสี่ยงต่ออันตรายให้กับประชาชนอย่างมากหลายประการ ดังนี้

1)การรื้อท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน.เอามาตั้งสถานีควบคุมอยู่บนฟุตบาทกีดขวางทางเดินเท้าของประชาชนและคนพิการไม่สามารถเข็ญรถวิลแชร์ผ่านได้

2)บริเวณริมคลองเปรมประชากร ถ.แจ้งวัฒนะ มีการวางคานเสารถไฟฟ้าต่ำมากรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ถนนและทางเท้าอาจทำให้รถทรงสูงเฉี่ยวชน ก่ออุบัติเหตุได้

3)การก่อสร้างบันได้ขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าบางสถานี ใช้พื้นที่เต็มฟุตบาทเหลือช่องทางให้คนเดินเท้าเดินได้ไม่ถึง 1 เมตรเป็นอุปสรรคต่อคนใช้ทางเท้าและคนพิการไม่สามารถเข็ญรถวิลแชร์ผ่านได้ 4)มีการเทปูนทับล้อมรอบทับถมต้นไม้ที่ขึ้นอยู่บริเวณฟุตบาท เป็นการทำร้ายต้นไม้ในทางอ้อม อย่างน่าละอาย สะท้อนให้เห็นถึงการเก็นแก่ตัว และไม่ใช่เมืองศิวิไลย์ แต่อย่างใด ฯลฯ

กรณีดังกล่าว ชี้ให้เห็นของการออกแบบ-ก่อสร้างอย่างย่ามใจ ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า และเป็นการปล่อยปละละเลย เพิกเฉยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กฟน.-กทม.-รฟม.และเทศบาลนนทบุรี ที่ปล่อยให้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูอย่างผิดกฎหมาย ย่ามใจ มุ่งแต่ประโยชน์ของพวกตนโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ/คนพิการ 

ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่และสั่งการไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทำการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการขอให้ผู้ตรวจการฯยื่นศาลปกครองเพื่อวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายหรือไม่ต่อไปด้วย