ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ผลิตยาประกาศพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดประสิทธิภาพสูง หวังผลิตให้ได้ 1,300 ล้านโดสในปี 2564

ไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาสัญชาติอเมริกัน และไบออนเทค (BioNTech) บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพจากเยอรมนี ประกาศข่าวดีหลังทั้ง 2 บริษัท สามารถร่วมมือกันผลิตวัคซีนต้านการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยประสิทธิภาพสูงกว่า 90% พร้อมย้ำว่านี่เป็น "วันที่วิเศษของวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ"

ผลที่ออกมา เป็นการประเมินจากค่ากลางของประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจากผู้ร่วมทดลองทั้งหมด 43,538 ราย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพียง 94 รายเท่านั้น อย่างไรก็ดีผลสรุปของประสิทธิภาพวัคซีนอาจมีความผันผวนได้ โดยบริษัทไม่ได้เผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลอง ว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นได้รับวัคซีนกี่ราย ซึ่งผู้ทดลองต้องฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ทิ้งระยะห่าง 3 สัปดาห์ แต่เบื้องต้นไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยใดๆ จากผู้ทดลอง

อัลเบิร์ต บูรลา ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอไฟเซอร์ ชี้ว่า "ผมคิดว่าเราเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างแล้ว" พร้อมเสริมว่า "เรากำลังก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาวัคซีนในช่วงเวลาที่โลกต้องการสิ่งนี้มากที่สุด"

อัลเบิร์ต เสริมว่า ผู้ร่วมการทดลองครั้งนี้มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติและชาติพันธุ์ โดยจากรายงานที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ร่วมทดลองรายใดต้องเผชิญหน้ากับผลข้างเคียงที่ร้ายแรง

ก่อนหน้านี้ ดร.แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NIAID และที่ปรึกษาของรัฐบาลสหรัฐฯ ในประเด็นโรคโควิด-19 ระบุว่า ระดับประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ตัวเลข 50% ถึง 60% นับว่าพอรับได้แล้ว ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปลงความเห็นไว้ที่สัดส่วนอย่างต่ำ 75% 

ภายหลังประกาศจากบริษัทผู้ผลิตยาออกมา stock Futures หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงราคาหุ้นของดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นถึง 1,458 จุด สะท้อนความรู้สึกของนักลงทุนที่มีต่อข่าวที่ที่เกิดขึ้น

ทั้ง 2 บริษัท ตั้งเป้าหมายในการผลิตวัคซีนให้ได้ราว 50 ล้านโดสในปี 2563 และมากถึง 1,300 ล้านโดส ในปี 2564  

ปัจจุบัน มีการทดลองวัคซีนโควิดในระยะสุดท้ายกว่า 10 ชนิด แต่ยังไม่มีผลการทดลองที่ชัดเจน โดยวัคซีนของไฟเซอร์นี้เป็นชนิดแรกที่เผยว่ามีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อ

อ้างอิง; Bloomberg, CNBC