ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยไม่สามารถเลื่อนเปลี่ยนเกรดคุณภาพน้ำมันสู่มาตรฐานยูโร 5 เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐานเร็วขึ้นได้ ชี้ยังมีข้อจำกัดหลายด้าน และต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน ขอความร่วมมือผู้ใช้รถเชื้อเพลิงดีเซล เปลี่ยนใช้น้ำมันบี 10 และบี 20 แก้ปัญหาฝุ่นเกินค่ามาตรฐานไปก่อน

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า หนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์มลพิษทางอากาศในปัจจุบัน ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) สูงเกินมาตรฐานนั้น คือ แนวทางการปรับเปลี่ยนคุณภาพน้ำมันสู่มาตรฐาน ยูโร 5 จากปัจจุบันเป็น ยูโร 4 ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือ จะมีการปรับเปลี่ยนในวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือและทำการตกลงร่วมกันกับโรงกลั่นทั้ง 6 แห่งแล้ว โดยปัจจุบันมีโรงกลั่น 3 แห่ง คือ บางจาก ไทยออยล์ และพีทีทีเจซี สามารถผลิตคุณภาพน้ำมันสู่มาตรฐาน ยูโร 5 ได้แล้วบางส่วน

พลังงานแถลงสถิติ เชื้อเพลิง
  • นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน

อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ยอมรับว่า ไม่สามารถที่จะเร่งรัด หรือเลื่อนให้โรงกลั่นปรับเปลี่ยนคุณภาพน้ำมันสู่มาตรฐาน ยูโร 5 ได้เร็วกว่านี้ เนื่องจากการกำหนดเป็นกฎหมายต้องให้ทุกโรงกลั่นสามารถผลิตได้ก่อน ซึ่งในบางโรงกลั่นต้องปรับปรุงอีกมาก หรือ ต้องสร้างโรงงานกลั่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เงินลงทุนรวมกันไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนคุณภาพน้ำมันสู่มาตรฐาน ยูโร 4 จาก ยูโร 3 ต้องใช้วเลาอย่างน้อย 5 ปี

ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้รถดีเซลปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันบี 10 และน้ำมันบี 20 ก่อนที่จะเข้าสู่การปรับเปลี่ยนคุณภาพน้ำมัน เนื่องจากมีการทดสอบยืนยันว่าน้ำมันบี 10 สามารถลดฝุ่น PM 2.5 มากกว่าร้อยละ 3.5 – 13.5 ขณะที่น้ำมันบี 20 สามารถลดฝุ่น PM 2.5 มากกว่าร้อยละ 20 - 25