อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการลงพื้นที่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายลดแออัด ลดเหลื่อมล้ำ พบว่า ขณะนี้ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้บริการคนไข้สิทธิหลักประกันสุขภาพตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ มาตั้งแต่ 1 พ.ย. 2563 โดยผู้ป่วยสามารถไปรับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน และนอนรักษาในโรงพยาบาลได้ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เพียงใช้บัตรประชาชนก็สามารถตรวจสอบตัวตนผู้ป่วยได้ สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง สามารถเข้ารับการตรวจรักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในจังหวัดบุรีรัมย์ และประสานส่งตัวไปโรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 9 นครชัยบุรินทร์ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว รวมถึงสามารถย้ายหน่วยบริการ ใช้สิทธิได้ทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน และย้ายได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้นำร่องยกระดับบัตรทอง “30 บาทรักษาทุกโรค” ให้เป็นนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ในพื้นที่ กทม./ปริมณฑล และเขตสุขภาพที่ 9 เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาได้สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษานอกพื้นที่ พร้อมจะขยายผลไปสู่จังหวัดต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายยกระดับบัตรทองให้เป็นบัตรทองพรีเมียม โดยเริ่มนำร่องในเขตสุขภาพที่ 9 เพิ่มบริการ 4 อย่าง คือ รักษาได้ทุกที่ในโรงพยาบาลรัฐที่เป็นโรงพยาบาลปฐมภูมิ นอนโรงพยาบาลไม่ต้องมีใบส่งตัว ผู้ป่วยมะเร็งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉพาะทาง สามารถเปลี่ยนสิทธิรักษามีผลทันทีไม่ต้องรอ 15 วัน ผ่านแอปพลิเคชันของ สปสช.
โดยเลือกเขตสุขภาพที่ 9 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) เป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากมีความพร้อมในด้านสถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ระบบเทคโนโลยีในการเชื่อมโยงข้อมูล โรงพยาบาลทุกระดับมีความพร้อมและทำงานเป็นเครือข่าย ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งเป้าขยายไปทั่วประเทศภายในปี 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :