เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนติดตามการทำงานของศรีสุวรรณ จรรยา ในนามของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กับ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ด้วยความชื่นชมมาโดยตลอด แต่ก็มีข้อสงสัยคาใจติดตามมาด้วย

เรืองไกร กล่าวว่า ตนตรวจสอบสมาคมทั้งสองในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาพบว่า สมาคมทั้งสองมีการจัดตั้งตาม ป.พ.พ. จึงมีฐานะเป็นนิติบุคคล ดังนั้นเมื่อสมาคมทั้งสองเป็นนิติบุคคล ก็มีหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ต้องทำบัญชี ปิดงบดุล ยื่นแบบภาษี ประชุมใหญ่สามัญ เป็นต้น

แต่จากการเสาะหาข้อมูลต่างๆ ดังกล่าว กลับไม่พบข้อมูลที่ควรปรากฏต่อสาธารณชนแต่อย่างใด แต่เคยมีข้อมูลเมื่อ 4 พ.ค. 2562 ที่ศรีสุวรรณ ให้ข่าวไว้ส่วนหนึ่งว่า "สมมติชาวบ้านบริจาคคดีละ 10,000 บาท ผมทำมา 4,000 คดี เป็นเงินเท่าไรก็คำนวณไป..."

เรืองไกร กล่าวว่า เมื่อสมาคมมีกิจกรรมและมีรายรับ ก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมายซึ่งมีหน่วยงานของรัฐหลายแห่งกำกับดูแล กรณีจึงมีเหตุที่ควรตรวจสอบตามกรณีต่างๆ ดังนั้น ตนจึงทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบสมาคมทั้งสอง ว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องต่างๆ หรือไม่ เช่น มีการจัดทำบัญชี และปิดบัญชี หรือไม่ มีรายรับจากใคร ออกใบรับอย่างไร หรือมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือไม่ มีรายได้ต่างๆ มาจากแหล่งใดมีการยื่นแบบภาษี ภงด.55 ทุกปี หรือไม่ มีการประชุมใหญ่สามัญทุกปี หรือไม่

เรืองไกรกล่าวตามมาว่า ในอีกด้านหนึ่ง ตนขอเรียกร้องให้ศรีสุวรรณ มีสปิริตและมีจริยธรรมด้วยการออกมาตอบข้อสงสัยและเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ด้วย ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบเรื่องนี้ของนายกรัฐมนตรีมีความรวดเร็ว และถูกต้องครบถ้วนมากขึ้น