สำหรับพรรคกล้าของ “กรณ์ จาติกวณิช” ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา ได้ส่ง “พงศธร สุวรรณรักษา” ลงชิงชัย โดยมี “ผู้การชาติ”พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคใต้ พปชร. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 กับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม

พ.อ.สุชาติ ได้ออกจาก พปชร. มาซบอกพรรคกล้า รับบทเป็นกุนซือพื้นที่ภาคใต้ให้กับพรรคกล้า หลัง พ.อ.สุชาติ ได้ “เผา พปชร.” ชนิดแสบทรวงหลังจากออกมา

ทั้งนี้ พ.อ.สุชาติ เคยระบุว่าจะนำ ส.ส.ภาคใต้ พปชร. 12 คน ไปซบ “พรรคปลัดฉิ่ง” แต่สุดท้ายแผนทำ “พรรคสำรอง” ของขั้ว “2ป.ประยุทธ์-บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ต้องพับไป ด้วยกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ นั่นเอง.

มากันที่ จ.ชุมพร ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน หนึ่งในนายทหารนอกราชการที่อยู่ในพื้นทำการเมืองมานาน คือ “เสธ.แอ๊ด”พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยเป็นคีย์แมน พล.อ.ประยุทธ์ พื้นที่ภาคใต้ตอนบน เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 ที่ตอนนี้ก็ถอยออกจาก พปชร. หลัง “สมบูรณ์ หนูนวล” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร พปชร. ที่อยู่ข้างกาย พล.ต.กลชัย ไปซบอกอยู่กับ “ภูมิใจไทย” เรียบร้อยแล้ว

(พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล)

(พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์)

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลัง “ผู้กองมนัส”ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. สยายปีกเข้ามาแดนปักษ์ใต้ ฟอร์มทีมใหม่ขึ้นมา โดยดึง “อนุมัติ อาหมัด” นักธุรกิจที่เติบโตในพื้นที่ภา จชต. มาเป็นคีย์แมนแทน พ.อ.สุชาติ ในการดูแลพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เพราะเป็นพื้นที่ที่เฉพาะตัว ต้องอาศัยคนพื้นที่เป็นหลัก

ส่วนพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง ทั้ง พล.อ.ประวิตร กับ ร.อ.ธรรมนัส ยังคงลงพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อเจาะพื้นที่ ในอีกด้านกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ยังพอ “ขายได้” ในพื้นที่เหล่านี้

อย่างไรก็ตามบรรดา “ส.ส.นกแล” ในพื้นที่ภาคใต้ ก็ยังอุ่นใจต่อกระแส “ตู่ฟีเวอร์” ไม่ได้ ด้วยเรตติ้งรัฐบาลและนายกฯในภาพรวมที่ดิ่งลงช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งหลายพรรคก็จ้อง “ยึดกลับ-รุกคืบ” ทั้ง ปชป. ในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม พรรคภูมิใจไทย ที่จ้องยึดพื้นที่ โดยมีแม่ทัพอย่าง “เจ๊เปี๊ยะ”นาที รัชกิจประการ ที่เสบียงพร้อมรบ อีกทั้งพรรคน้องใหม่อย่าง “พรรคกล้า” ด้วย

มากันที่ภาคอีสาน ปรากฏภาพ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. หลังถอยจากชิงผู้ว่าฯ กทม. สวมเสื้อคณะทำงาน พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ภาคอีสาน จ.สกลนคร พร้อมกับ “บิ๊กอี๊ด”พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่เติบโตในพื้นที่อีสารมาตั้งแต่เป็นนายทหารหนุ่มๆ ที่ พล.ร.6 พร้อม “เสธ.หิ”หิมาลัย ผิวพรรณ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.25-จปร.36 กับ ร.อ.ธรรมนัส ร่วมลงพื้นที่ เพื่อช่วยชาวนาซื้อข้าวไปสีแจกโรงเรียน ตชด. ในพื้นที่ชายแดน

สำหรับ พล.อ.ธัญญา ถือเป็นนายทหารสายตรง พล.อ.ประวิตร ส่วน “เสธ.หิ” เป็นทหารเสือ ร.21 รอ. เหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งในขณะนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ลงพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอีสานเพื่อดูโครงการต่างๆ ในเรื่องน้ำและสินค้าเกษตรต่างๆ เพราะเป็นแนวทางเดียวที่จะเจาะพื้นที่ได้ และสู้กับนโยบายในอดีตของพรรคเพื่อไทย

แม้ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะไม่ได้เติบโตพื้นที่อีสานมาโดยตรง แต่ในฐานะอดีต ผบ.ตร. ก็มีเครือข่ายลูกน้องในพื้นที่ไม่น้อย อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะพ้นกำหนดเว้นวรรคการเมือง 2 ปี หลังพ้นเก้าอี้ ส.ว. ช่วง ต.ค. 2565 จึงมีโอกาสทันสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตด้วย

ทว่าภาคอีสานนั้นเป็น “โจทย์ยาก” สำหรับ พปชร. แม้จะพยายามดึง “บ้านใหญ่” มาร่วมทัพ แต่จากเลือกตั้งปี 2562 คนที่ “แปรพักตร์” มาอยู่ พปชร. สอบตกหลายคน

เหตุเพราะ “แบรนด์ทักษิณ-ไทยรักไทย” ยังแข็งแรงในพื้นที่ แม้จะมี “ผู้เล่นใหม่” เข้าไปในพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะซีกตรงข้าม “พปชร.-3ป.” อย่าง “พรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า” ทว่าการเมืองในระดับพื้นที่ “พรรคเพื่อไทย” ยังแข็งอยู่

แต่ในแง่อุดมการณ์ก็ท้าทาย “พรรคเพื่อไทย” เช่นกัน ดังนั้น พปชร. จะต้องแก้เกมและอัดฉีดลงพื้นที่มากขึ้น เพราะพื้นที้ภาคอีสานในกติกาใหม่เก้าอี้ ส.ส. จะเพิ่มขึ้นจาก 116 เป็น 133 ที่นั่ง หากใครยึดภาคอีสานได้ โอกาสได้เป็นรัฐบาลก็สูงตามไปด้วย

สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า “3ป.” ยังคงผนึกกำลังอยู่กับ พปชร. ต่อไป โดยที่ พล.อ.ประวิตร พยายามรุกคืบคุมพรรคยึดพื้นที่มากขึ้น

ในส่วน พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวก นายกฯ ทำงานบริหารเต็มสูบ สร้างกระแส “ตัวผู้นำ” ควบคู่ “กระแสพรรค” ด้วยบริบทการเมืองที่เปลี่ยนไป มีผู้เล่นใหม่เพิ่มเข้ามา

ในฝั่ง “ผู้มีอำนาจ” หากแพ้ยับเยิน ก็ไปต่อลำบาก ไร้ความชอบธรรม ในฝาก “ผู้ท้าชิง” หากไม่ชนะขาด ก็ยากจะสู้ เพราะเดิมพันครั้งนี้สูงนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ปชป.-พปชร.ฮั้วเลือกซ่อม เปิดสัมพันธ์ ‘ธรรมนัส-นายก ชาย’-สัญญาใจ ‘มิสเตอร์ไม่รู้’ กับ ‘ลูกหมี’