แต่สิ่งที่ตอกย้ำว่ากระแสข่าวนี้อาจเป็นจริง หลัง ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ติดโผนั่งรองนายกฯและรมว.กลาโหม จะเหลือเพียง รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เท่านั้น นั่งคุมตำรวจเช่นเดิม ในตำแหน่ง ประธานก.ตร. หลัง พล.อ.ประวิตร เปรยถึงสุขภาพขอมาถึง 2 ครั้งในรอบ 1 สัปดาห์ว่าเดินไม่ค่อยไหว และมีอาการเจ็บเท้าให้เห็นบ้าง

“แย่แล้ว คือไม่สบาย และไม่แข็งแรงเท่าที่ควร” พล.อ.ประวิตร กล่าว 7 มิ.ย.62

“ไม่ไหว เดินไม่ไหวแล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว 11 มิ.ย.62

ที่ผ่านมา นายทหารคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร ก็กล่าวตรงกันว่าอยากให้นายได้พักดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่นายจะตัดสินใจอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่างานในรัฐบาลปกติจะมากกว่าในยุค คสช. ซึ่งจะต้องมี รมช.กลาโหม มาแบ่งเบาภาระงาน โดยชื่อ ‘บิ๊กช้าง’ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ยังคงเต็งหนึ่ง รมช.กลาโหม แต่ยังได้รับการยืนยันว่าในเวลานี้ว่าชื่อ พล.อ.ประวิตร ยังคงควบ 2 ตำแหน่งเช่นเดิม

ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องเกินคาดหมายหากสุดท้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นมาควบ รมว.กลาโหม เอง 

เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็น ‘2ป.ประวิตร-ประยุทธ์’ ก็ไม่แตกต่างกัน 

เพราะ พล.อ.ประวิตร ก็ยังคงเป็นผู้ช่วยอยู่เบื้องหลังได้ อีกทั้ง ‘2ป.’ ก็ต่างเป็นไว้วางใจกัน หรือแค่มองตาก็รู้ใจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยมีความชัดเจนว่าอยากให้ พล.อ.ประวิตร มาช่วยงานเพราะไว้วางใจกัน

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธกระแสข่าวที่จะนั่งควบ รมว.กลาโหม ว่า “ไม่ทราบ ข่าวมาจากไหน เดี๋ยวผมดูเอง แต่ผมยังไม่พูดจะดูกลาโหม ยังตอบอะไรได้หรือไม่ได้ เดี๋ยวผมจะดูภาพรวมเอง”

จึงทำให้กระแสข่าวยังไม่ถูกสยบลง เพราะตำแหน่ง รมว.กลาโหม มีความสำคัญที่จะต้องคุมกองทัพทั้งหมดในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ อีกทั้งไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพ รมว.กลาโหมอาเซียน ในเดือนก.ค.นี้ด้วย

นอกจากนี้ทั้ง พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า นายกฯ ยังไม่ได้มาพูดคุยกับตนถึงการจะให้มาร่วม ครม.ชุดใหม่หรือไม่ แม้ตนจะแสดงความยินดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้นั่ง นายกฯอย่างเป็นทางการแล้ว 

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้เปิดเผยว่าได้เชิญทั้ง พล.อ.ประวิตร และ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะมีชื่อเต็งหนึ่งรีเทิร์นนั่ง มท.1 อีกครั้งแล้วหรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า “รังเกียจอะไรท่านหรอ”

ก่อนหน้านี้ชื่อ ‘2ป.บิ๊กป้อม-ป๊อก’ มีกระแสข่าวจากพรรครวมรัฐบาลไม่ยอมรับ เพราะเกรงภาพการ ‘สืบทอดอำนาจ’ แต่กระแสข่าวนี้ก็ลดลงไป หลังการจัดเก้าอี้ ครม.ชุดใหม่เริ่มลงตัว จึงมองว่าอาจเป็นเพียงการงัดข้อต่อรองทางการเมืองเท่านั้น 

แต่อย่าลืมว่า พล.อ.ประวิตร ตกเป็นเป้านิ่งเป้าใหญ่มาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้ถูกมองเป็น ‘จุดอ่อน’ ของรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็เคยตัดพ้อในเรื่องนี้มาแล้ว หากมองกลับกัน พล.อ.ประวิตร ก็คือคนที่รับศึกแทน พล.อ.ประยุทธ์ หลายเรื่อง ที่ต้องยอมเจ็บตัวแทนและต้องรับศึกเพื่อประคองรัฐบาลมาได้เกือบ 5 ปี

แม้ พล.อ.ประวิตร จะท่องคาถา “ไม่รู้-ยังไม่รู้” ในการตอบคำถามการเมืองหรือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ไม่ได้มีเรื่องความวิตกกังวลให้เห็นเท่าไหร่ จึงมีการมองว่าการที่ พล.อ.ประวิตร ยังไม่ตอบได้ชัดเจนนั้น ก็เพราะทุกอย่างต้องผ่านการ ‘คอนเฟิร์มขั้นสุดท้าย’ ให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นจะผิดมารยาททางการเมืองได้

สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดย ‘อุตตม สาวนายน’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า อีกไม่กี่วันจะได้เห็นรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ อย่างแน่นอน 

แม้ก่อนหน้าจะมีวิวาทะระหว่าง ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ ‘ธนกร วังบุญคงชนะ’รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในการจัดเก้าอี้ ครม. ที่ต่างโจมตีถึงการจัดสรรระหว่างกัน โดยฝั่ง‘เสี่ยหนู’ระบุว่าไม่ได้มีไว้แลกเปลี่ยนไปมา ส่วน‘ธนกร’กล่าวว่าไม่ใช่เพื่อบริษัทใด

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทราบดีถึงความเป็น ‘นักการเมือง’ ที่มักจะต่อรองและสร้างเงื่อนไขต่างๆ โดยเปิดเผยว่าจะพูดคุยกับพรรคร่วมอย่างเป็นทางการ โดยยอมรับว่าในส่วนของ พปชร. ไม่เห็นมีปัญหาใดๆ แต่ก็ทราบดีถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ในการจัดเก้าอี้ ครม.ก่อนหน้านี้ โดยย้ำว่าไม่มีใครจะพอใจได้ทุกคน

“เถียงกันไปมา ก็เละเทะไปหมด อย่าทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นตั้งแต่วันนี้ ไม่มีอะไรที่ตั้งออกมาแล้วพอใจทุกคน เป็นไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“ผมก็ต้องปรับการทำงานเหมือนกัน ไม่ใช่ผมตัดสินใจคนเดียวเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว แต่ผมจะมีอำนาจตัดสินใจอีกครั้งเมื่อเป็นนายกฯ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ล่าสุด ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช. ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล แม้จะอยู่ระหว่างการฝึก ในสภาวะที่ใกล้ได้ ครม.ชุดใหม่ และ คสช.ใกล้พ้นจากอำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 หลัง ครม.ชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนอย่างเป็นทางการ 

ซึ่งช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา หลังเลือกตั้งที่อยู่ในห้วงการจัดตั้งรัฐบาล ผบ.เหล่าทัพ ก็งดให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องการเมือง แต่ก็ปฏิบัติหน้าที่ ส.ว. โดยตำแหน่ง หลังพร้อมเพรียงกันขานชื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯ ต่อในสภา แสดงถึงความเป็นปึกแผ่นระหว่าง ‘กองทัพ’ กับ ‘ครม.ตู่2/1’ ได้ไม่น้อย