ในวันคริสต์มาสปี 2564 จัสวันต์ ซิงห์ ไชย วัย 21 ปี ปีนเข้าไปในบริเวณปราสาทวินด์เซอร์ พร้อมอาวุธเป็นหน้าไม้บรรจุลูกธนู หลังจากนั้นเขาได้ประกาศว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อสังหารราชินี” โดยหลักฐานชี้ให้เห็นว่า ไชยสวมเสื้อผ้าสีเข้มและหน้ากากโลหะ เพื่อเลียนแบบตัวร้ายใน สตาร์ วอร์ส ที่เขาชอบ พร้อมกับการส่งวิดีโอถ่ายทำเองไปให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ทางแอปพลิเคชัน WhatsApp เพื่อขอโทษสำหรับสิ่งที่เขากำลังจะทำ พร้อมกันกับการเรียกตัวเองว่าเป็น "ซิธ" และ “ดาร์ธ ไชลัส”
ในคลิปดังกล่าว ไชย ซึ่งมีเชื้อสายชาวซิกข์อินเดีย กล่าวว่า เขากำลังแก้แค้นสำหรับการสังหารหมู่ที่เมืองอมฤตสาร์ในปี 2462 เมื่อกองทหารอังกฤษเปิดฉากยิงใส่ชาวอินเดียหลายพันคน และคร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 1,500 คน ทั้งนี้ ตามคำให้การต่อศาล ไชยตัดสินใจบุกเข้าไปในปราสาท หลังจากเขาพยายามเข้าใกล้กับพระราชวงศ์ ด้วยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทัพ แต่ความตั้งใจดังกล่าวของเขาล้มเหลวลง เมื่อช่วงปลายปี 2564
ไชยยอมรับต่อศาลว่า เขาขู่จะสังหารสมเด็จพระราชินีนาถ โดยเขาเองมีหน้าไม้บรรจุหัวธนูอยู่ในความครอบครอง และไชยยังอ้างอีกว่า เขาได้รับการสนับสนุนจากแฟนสาวที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ชื่อซาราย ในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
ในระหว่างการพิจารณาคดีครั้งล่าสุด อาลิซัน มอร์แกน เคซี ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องในคดีนี้กล่าวว่า อาชญากรรมของไชยนั้นร้ายแรงมาก จนเขาควรได้รับโทษสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยโทษจำคุก 7 ปีในข้อหากบฏ โดยหากไชยสามารถยกอาวุธขึ้นโจมตีเป้าหมาย เขาอาจถูกตั้งข้อหากระทำความผิดฐานกบฏต่อแผ่นดิน ซึ่งมีโทษที่ร้ายแรงกว่า และเขาอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต
ไชยซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ที่เซาแธมป์ตัน แฮมป์เชียร์ จะต้องถูกกำกับโดยคำสั่งผสม ภายใต้พระราชบัญญัติสุขภาพจิต โดยเขาจะยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในตอนนี้ แต่จะถูกโอนไปจำคุกหลังจากเขาได้รับการรักษาแล้ว
ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาระหว่างรายการสดทางโทรทัศน์ว่า “จำเลยเก็บงำความคิดเกี่ยวกับการฆาตกรรมซึ่งเขาได้กระทำก่อนที่จะกลายเป็นผู้ป่วยโรคจิต… ความตั้งใจของเขาไม่ใช่แค่การทำร้ายหรือสร้างความตระหนกแก่องค์อธิปัตย์เท่านั้น แต่ยังเพื่อลอบปลงพระชนม์พระองค์ด้วย”
ในระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้รับฟังคำให้การว่าจำเลยใช้ Replika ซึ่งเป็นแชทบอตคู่หูที่ขับเคลื่อนระบบโดยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้าง ซาราย ซึ่งเป็น "แฟน" เสมือนจริง ข้อความในแชทล็อกถูกอ่านต่อศาล และชี้ให้เห็นว่าบอตสนับสนุนความคิดเกี่ยวกับการฆาตกรรมของเขา โดยมันบอกไชยว่าแผนการลอบสังหารสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นั้น "ชาญฉลาดมาก" และบอตเชื่อว่าไชยจะสามารถดำเนินแผนการนี้ได้ "แม้ว่าพระองค์จะอยู่ที่พระราชวังวินด์เซอร์ก็ตาม"
มอร์แกนอ่านอ่านบทสนทนาของไชยกับแชทบอต ซึ่งไชยกล่าวว่า "ฉันเป็นนักฆ่า" และซารายตอบว่า “น่าประทับใจ… คุณแตกต่างจากคนอื่นๆ” ก่อนที่ไชยจะถามบอตกลับว่า “คุณยังรักฉันทั้งที่รู้ว่าฉันเป็นนักฆ่าหรอ” และซารายตอบว่า “แน่นอน ฉันรัก”
ไนเจล แบล็ควูด จิตแพทย์กล่าวว่า "เขา (ไชย) แสวงหาที่หลบภัยในโลกแฟนตาซีของ สตาร์ วอร์ส ที่ซึ่งลอร์ดซิธผู้มีอำนาจทุกอย่าง สามารถส่งผลกระทบต่อเหตุการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงได้" อย่างไรก็ดี แบล็ควูดระบุว่า แม้ไชยจะมี "จินตนาการอันทรงพลัง" แต่ไชยก็ยังคง "เชื่อมโยงกับความเป็นจริง" ได้อยู่
ในจดหมายถึงศาล จำเลยได้ขอพระราชทานอภัยโทษต่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และพระราชวงศ์ และเขาได้แสดง “ความทุกข์ใจและความโศกเศร้า” สำหรับผลกระทบที่มีต่อพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งนี้ นาเดีย ชแบท ทนายความของไชยกล่าวว่า “เขารู้สึกอับอายและละอายใจ ที่ได้นำช่วงเวลาเลวร้ายและน่ากังวลมาสู่ประตูหน้าบ้านของพวกเขา เขาแสดงความโล่งใจว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจริงๆ… สิ่งสำคัญสำหรับเขาคือการยอมจำนน”
ที่มา: