ไม่พบผลการค้นหา
'หมออ๋อง‘ จ่อเยือนทำเนียบรัฐบาล พรุ่งนี้(1 มี.ค.) ทวงถามนายกฯ หลังกฎหมายค้างท่อรอเซ็นหลายฉบับ

วันที่ 29 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง แถลงข่าวถึงร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินที่ยังไม่บรรจุในวาระการประชุมสภาฯ ว่า สถานะของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ที่ยังรอ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงนามรับรอง มีทั้งหมด 31 ฉบับ

โดย ฉบับที่รอความเห็นนานที่สุด คือ ร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. .... ที่เสนอโดยพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จำนวน 6 เดือน 11 วัน , ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 พ.ศ. .... ที่เสนอโดย รอมฎอน ปันจอร์ จำนวน 6 เดือน 4 วัน ซึ่งไม่ได้มีร่างของฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ยังมีร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... ที่เสนอโดย สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง จำนวน 5 เดือน 25 วัน และร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. .... ของ อนุทิน ชาญวีรกูล จำนวน 4 เดือน 17 วัน

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนทำได้เพียงนำข้อเท็จจริงเหล่านี้มาแถลงต่อสาธารณะ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่ากฎหมายที่เสนอโดย สส. ตอนนี้ทำได้เพียงเสนอกฎหมายที่ไม่ได้เป็นร่างการเงิน ซึ่งการตีความว่าเป็นทางการเงินนั้น ครอบคลุมได้หลายมิติมากไม่ว่าจะเป็นการเปิดกองทุน การเพิ่มภาระงานบางอย่าง 

เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะทำให้อยากจะมีความเห็นต่อสาธารณะว่าเรามีความคิดว่ารัฐบาลต้องจริงใจกว่านี้ในการส่งทางการเงินเข้ามาถกเถียงที่สภาฯ 

ปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า แน่นอนว่าร่างการเงินเหล่านี้กระทบฝ่ายบริหาร แต่ถ้าหน่วยงานไม่รับรองสักที แล้วตนส่งเรื่องไปทวงถามสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหลายรอบแล้วว่าติดที่หน่วยงานไหน ปรากฏว่าไม่เคยได้รับคำตอบ แล้วถ้าหน่วยงานหนึ่งไม่ส่งคำตอบสักหน่วยงาน ร่างของ สส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนจะไม่มีวันได้บรรจุเข้าสภา

“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ สิ่งที่เราบอกชัดเจนว่าสภานิติบัญญัติจะต้องไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายรัฐบาล แต่การพิจารณากฎหมาย ซึ่งเป็นงานที่พวกเราทำได้ กลับถูกเทคนิคหรือไม่ ในการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ส่งความเห็นให้นายกรัฐมนตรี หรือทำเป็นไม่ส่งความเห็น เพื่อทำให้ร่างที่จะเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงหน่วยงานของตัวเองเป็นหมันไป” ปดิพัทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ปดิพัทธ์ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) ตน และสำนักรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งจะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพูดคุยปัญหาเรื่องนี้โดยตรงกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 

“เรามีความพยายามจะเข้าพบหลายครั้งแล้ว ที่จริงจะเข้าไปในวันศุกร์ที่แล้ว แต่ไม่มีใครอยู่ ทำให้ไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะต้องไปดูด้วยตาตัวเองว่าไม่มีใครอยู่แปลว่าอะไร ผมต้องการพบผู้ที่รับผิดชอบด้านกฎหมายของรัฐบาล ไม่ได้ไปพบเพื่อที่จะมีความกระทบกระทั่ง แต่พบเพื่อประสานความร่วมมือ ไม่อย่างนั้นถ้าฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลยังทำงานแบบนี้ เราจะเห็นว่ากฎหมายจำนวนมากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลเสนอนั้นไม่สามารถเข้าสภาได้” ปดิพัทธ์ กล่าว