วันที่ 13 เม.ย. เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสตอบรับของพรรคฯ ว่า เป็นที่น่ายินดีว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะเป็นพรรคใหม่แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ผลโพลความนิยมไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งสมาชิกพรรคทุกคน ทั้งผู้บริหารและผู้สมัคร ส.ส.ต่างทำงานอย่างหนักในการลงพื้นที่ เนื่องจากหลังจากนี้จะมีเวลาอีกประมาณ 1 เดือน ทุกคนพยายามสื่อสารนโยบายของพรรคเพื่อให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด
อย่างไรก็ตามผลงานที่ผ่านๆมาของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นที่ยืนยันได้ว่า สามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ และหลังจากนี้ต่อไปหากได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะได้มีการเดินหน้านโยบายในหลายๆด้าน
“ที่ผ่านมาผลโพลของเรามีกระแสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าหลังจากนี้โดยเฉพาะในวันที่ 14 พฤษภาคมจะมีพลังเงียบที่อาจจะออกมาพลิกปากกาเซียน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นเราจึงเชื่อผลโพลจากประชาชนมากที่สุด แม้ผลโพลตอนนี้จะเป็นรอง แต่ผลโพลที่แม่นที่สุด คือผลโพลจากประชาชนในวันเลือกตั้ง ผมเดินหาเสียงทุกวันรับทราบได้ว่ามีพลังเงียบจำนวนมากที่ไม่ได้แสดงออกมาในผลโพล แต่ตั้งใจจะไปเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนมากในวันเลือกตั้ง เพื่อไปยกมือให้กับลุงตู่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง" เอกนัฏ กล่าว
เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พลเอกประยุทธ์ จะเริ่มลงพื้นที่โดยเริ่มที่กรุงเทพฯก่อน และจะมีเวทีปราศรัยไปทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 10 เวทีเพราะถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ไปทุกที่ไปทุกภาค โดยในช่วงเทศกาลก็อาจจะได้เห็นลุงตู่ปรับลุคในชุดลายดอก เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ปีใหม่ของคนไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ จะยังคงยึดการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของ กกต. ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการย้ำให้ผู้สมัครทุกคน หาเสียงอยู่ในกรอบ ที่ กกต.กำหนด ได้มีการเข้มงวดให้ตรวจสอบอย่างชัดเจน ในส่วนของการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุน่าจะเป็นกรอบที่ทำได้อยู่แล้ว เพราะเป็นไปตามประเพณีของคนไทย