วันที่ 21 ธ.ค. 2565 อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ชดใช้ค่าเสียหายกรณีแจกใบส้มแก่ สุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย ด้วยจำนวนเงิน 56.7 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยรวมแล้วประมาณ 62 ล้านบาทว่า ทาง กกต. ได้รับทราบแล้วในเบื้องต้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลก็รับฟังด้วยความเคารพ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ในหลักปฏิบัติของ กกต. สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งที่เปรียบเสมือนเลขาของ กกต. จะต้องไปศึกรายละเอียด เท่าที่ทราบคือ จะมีการคัดคำพิพากษาเพื่อศึกษา และนำแจ้งให้ที่ประชุม กกต. ทราบภายในสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีการยื่นฎีกาหรือไม่ก็เป็นอีกหนึ่ง ซึ่งประเด็นหนึ่งที่เราจะพิจารณาในสัปดาห์หน้า การพิจารณาของเราจะต้องฟังความเห็นของกรรมการทุกท่านในเรื่องนี้ แล้วมาวิเคราะห์แนวทางต่อไป คาดว่าคงจะมีเตรียมการว่าแต่ละท่านจะคิดอย่างไร และเสนออย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีดังกล่าวจะมีผลต่อการพิจารณาให้ใบแดง ใบส้มแก่ผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ อิทธิพร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผล เพราะการปฏิบัติหน้าที่ของเราเป็นการทำตามหน้าที่ และอำนาจ ถ้าเราเห็นว่า เป็นอย่างไรก็ต้องทำตามคณะกรรมการ ซึ่งตนคิดว่าดีเพราะในกรรมการมีผู้พิจารณาถึง 7 ท่านที่ผ่านกระบวนการไตร่ตรองของแต่ละท่านอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น อิทธิพร ตอบว่า ได้ยินตามสื่อมาบ้างแล้ว แต่หน้าที่ของเราคือ เตรียมพร้อมการจัดทำเลือกตั้งครั้งต่อไปให้ดีที่สุด ถ้าครบวาระสภาวันที่ 23 มี.ค. ก็ต้องพร้อมจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน เราเตรียมพร้อมมาตลอด เพราะได้บทเรียนมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งเรามีกระบวนการเตรียมการเลือกตั้งอย่างจริงจัง ตั้งแต่ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาที่มีการประชุม ผอ.กกต. จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่ง ผอ. ในแต่ละจังหวัดจะเป็นคนขับเคลื่อนการเลือกตั้งต่อไป ส่วนกฎหมายที่จะมีการประกาศใช้ทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง และพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เราก็รองรับการแก้ไขไว้เรียบร้อย ถ้ากฎหมายลงมาแล้วก็สามารถพิจารณานำไปประกาศใช้ได้ ส่วนการเตรียมการแบ่งเขตก็เตรียมไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาเริ่มดำเนินการได้เราจะเริ่มกระบวนการแบ่งเขตทันที
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ในช่วงปีใหม่ของ ส.ส. ในแต่ละพื้นที่ต้องระมัดระวังเรื่องใดบ้าง ประธาน กกต. ตอบว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่มีการชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง อย่างกรณี 180 วัน เราก็ได้ประชุมในวันที่จะมีออกระเบียบแก้ไข และชี้แจงต่อสื่อมวลชน และพรรคการเมือง หวังว่าจะมีการปฏิบัติที่ถูกต้องครบถ้วน ถ้ามีข้อสงสัยสอบถามมาที่ กกต. ได้
ส่วนกรณีที่ สายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศตัวชัดว่าพร้อมจะย้ายตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้ขึ้นรูปในปฏิทินที่แจกประชาชนช่วงปีใหม่นั้นจะผิดกฎของ กกต. หรือไม่นั้น อิทธิพร กล่าวว่า ได้รับทราบแล้ว และทางกกต. เมื่อมีเรื่องพวกนี้ต้องดำเนินการตรวจข้อเท็จจริงต่อไป แต่ในเบื้องต้น ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอเสนอในที่ประชุม
เมื่อถามว่า ในช่วงที่ ส.ส. มีการย้ายพรรคไปมานั้น อิทธิพร กล่าวว่า ตนตอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการตัดสินใจของแต่ละบุคคล แต่ต้องระวังเรื่องการสังกัดพรรคในการนับวันอย่างไรเพื่อไม่ให้ผิดระเบียบ