ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุโซนร้อน 'นังกา' ทำให้ภาคตะวันออกและอีสานตอนบนมีฝนตกเพิ่มขึ้น ในขณะที่หลายจังหวัดหน่วยงานสั่งรับมือน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้น้ำล้นตลิ่งได้

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน 'พายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) 'นังกา' บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 14–16 ต.ค. 2563)' ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2563 โดยเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (13 ต.ค.) พายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) 'นังกา' บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 290 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเกาะไหลำ ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ เข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 14–15 ต.ค. 2563 โดยจะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นในบริเวณด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือ ในระยะนี้


ผู้ว่าฯ พัทลุงเตือนฝนตกต่อเนื่องรับมือน้ำท่วมฉับพลัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ศรอนงค์ สงสมพันธุ์ นายอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง ได้เรียกประชุมคณะกรรมการจัดการน้ำของอำเภอควนขนุนเร่งด่วน หลังจากที่สถานการณ์น้ำในฝายท่าแนะ ในพื้นที่ ต.เขาย่า อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง มีปริมาณน้ำถึงจุดวิกฤติ และระดับน้ำได้เอ่อล้นสปริลเวย์ด้านซ้ายของฝาย และทำให้น้ำในลำคลองท่าแนะเพิ่มปริมาณสูงขึ้น หวั่นจะส่งผลกระทบในพื้นที่ด้านล่างในพื้นที่ ต.ชะมวง ต.ควนขนุน ต.ดอนทราย และในเขต อ.ควนขนุน หากมีการระบายน้ำออกจากฝาย เนื่องจากเกรงตัวฝายจะรับน้ำที่ไหลลงมาสมทบจาก อ.ศรีบรรพตไม่ไหว จึงต้องเร่งประชุมและแก้ไขดังกล่าว ซึ่งหากมวลน้ำ 1,200,000 ลูกบาศก์เมตรที่ไหลล้นสปริลเวย์บวกกับการเปิดประตูระบาย จะส่งผลกระทบพื้นที่ด้านของฝายอย่างแน่นอน  

ระดับน้ำ.jpg


ในขณะที่ตลอดลำคลองท่าแนะในพื้นที่รับน้ำ ในเขตเทศบาลตำบลควนขนุน เทศบาลตำบลชะมวง เทศบาลตำบลหนองพ้อ รวมถึงในตลาดควนขนุน ได้มีการก่อสร้างพนังกันน้ำ แต่การดำเนินการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จด้วยงบประมาณ 180 ล้านบาท ระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร และบางช่วงบางตอน ไม่มีคันกั้นน้ำ หากมีการระบายน้ำ หรือมีปริมาณฝนที่ตกลงมาเพิ่มจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบกับบ้านเรือนสองฝั่งคลองอย่างแน่นอน

เบื้องต้นทางด้านนายอำเภอควนขนุน ได้เร่งให้ผู้รับเหมา ในการก่อสร้างพนังกันน้ำเร่งขุดเส้นทางระบายน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา หากในพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่องต้องจำเป็นเปิดบานประตูฝายท่าแนะ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ฝั่งคลองท่าแนะ ของ อ.ควนขนุน ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก เฝ้าระวัง และคอยติดตามคำประกาศของทางอำเภออย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น 

สถานการณ์น้ำพัทลุง.jpg


ด้านกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายจังหวัดในภาคใต้ เริ่มฤดูฝนและจะมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงเดือน ธ.ค. โดยเฉพาะจังหวัดพัทลุงจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องจะทำให้มีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดังนั้นทางจังหวัดพัทลุงได้เตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้อย่างทันท่วงที โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกอย่าง และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนคอยอพยพประชาชนหากเกิดเหตุการณ์รุนแรง ขณะที่ทางจังหวัดพัทลุงได้เตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ 24 ชั่วโมง           

ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวอีกว่า หากยังมีฝนตกอีกหลายวันขอให้ประชาชนคอยฟังข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และประกาศทางจังหวัดพัทลุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ 


ผบก.เพชรบุรี นำทีมสำรวจพื้นที่น้ำท่วม

พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย ทีมงานร่วมกับหน่วยบินตำรวจหัวหินกองบินตำรวจนั่งเฮลิคอปเตอร์ จากมณฑลทหารบกที่ 15 จังหวัดเพชรบุรี บินสำรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน, อ.ท่ายาง, อ.บ้านลาด และ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เพื่อประเมินสถานการณ์ และวางแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยมี พ.ต.อ.พาณุพงษ์ ศรจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน และมีชัย ปฏิยุทธ ผอ.โครงการส่ง น้ำและบำรุงรักษาแก่งกระจาน ร่วมให้การต้อนรับ ที่สนาม ฮ. กรมชลประทานแก่งกระจาน พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ไปจนถึงปลายน้ำที่ปากอ่าวบางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี 

น้ำท่วมเพชรบุรี.jpg


สำหรับการบินสำรวจ พบสถานการณ์น้ำท่วมเพชรบุรี วันนี้กรมชลประทานปล่อยน้ำออกท้ายเขื่อนเพชร ลงแม่น้ำเพชรบุรีในอัตรากว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ ต.บ้านกุ่ม และ ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 12 หมู่บ้าน รวมกว่า 1,000 หลังคาเรือน พบระดับน้ำเฉลี่ย 70 เซนติเมตร โดยเฉพาะที่หมู่ที่ 2 บ้านแขก ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พบมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเพชรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง   

จากนั้น พล.ต.ต.อุทัย พร้อมด้วยสมชัย วัฒนธรรม นายก อบต.บางครก, พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.บ้านแหลม พร้อมข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านแหลม, ตำรวจจิตอาสาร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะแม่น้ำเพชรบุรีล้นตลิ่ง ณ ชุมชนวัดบางลำพู หมู่ 3 ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมร่วมบรรจุกระสอบทรายเตรียมความพร้อมในการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม และมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ประสบภัยภายในชุมชนดังกล่าว

เพชรบุรี.jpg


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย จึงร่วมกับหน่วยบินตำรวจหัวหินกองบินตำรวจ ออกบินสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม พบปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ยังคงรับน้ำได้อีก 50% ของความจุเขื่อน แต่พบว่าปัญหาที่เกิดมาจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง อ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ซึ่งมีความสุขเพียง 42 ล้านลูกบาศก์เมตร ตอนนี้สถานการณ์น้ำพบมีปริมาณน้ำมากถึง 45 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำเออล้นออกสปริลเวย์ จากการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ทำให้กระทบกับบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่ปลายที่อำเภอบ้านแหลม

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเฝ้าระวัง และเดินทางเข้าไปตรวจเยี่ยม ผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้สั่งการกำชับให้ สภ.บ้านแหลม และเมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อาจจะมีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและรายงานตนทันที