วันที่ 24 มิ.ย. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2563 โดยในวันนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและเห็นชอบ ร่าง "ระบบการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากผู้เดินทางที่จะเข้ามาในราชอาณาจักร ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558"
นายอนุทินกล่าวว่า ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากนานาประเทศในความสำเร็จของการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทูตานุทูตหลายประเทศเข้ามาหารือเรื่องมาตรการผ่อนปรนการเดินทางระหว่างประเทศและขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมาตรการที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเสนอ จะใช้วิธีการจับคู่เจรจาและทำข้อตกลงระหว่างประเทศคู่เจรจา ทั้งนี้ จะเริ่มจับคู่กับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน และจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อปรับกลุ่มประเทศและมาตรการได้ตลอด
สำหรับกลุ่มคนที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ จำแนกเป็น3กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นบุคคลที่นายกรัฐมนตรีอนุญาต เช่น คณะทูต คณะกงศุล องค์กรระหว่างประเทศหรือผู้แทนรัฐบาล ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น กลุ่มที่สอง คนไทยกลับบ้านที่ต้องเข้าสู่ระบบกักกันซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว กลุ่มที่สาม คนต่างชาติ จะพิจารณาจากวัตถุประสงค์การเข้ามา ความจำเป็นด้านเศรษฐกิจและสังคม ระยะเวลาในการอยู่ในประเทศ โดยมีการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับ
ส่วนในกลุ่มชาวต่างชาติ จะแบ่งเป็น 3 ระยะของการผ่อนปรน ดังนี้
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดมาตรการในการดำเนินการ ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเดินทางเข้าประเทศ อาทิ การลงทะเบียนและมีใบรับรองจากสถานทูตไทย การทำประกันภัยที่ครอบคลุมการตรวจ/รักษาโควิด19 ใบรับรองการบิน ระหว่างอยู่ในประเทศ อาทิ การคัดกรอง การตรวจหาเชื้อ การแยกกัก กักกัน และคุมไว้สังเกตตามระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย โดยทีมติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุข และก่อนเดินทางกลับ อาทิ การรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ การตรวจหาเชื้อก่อนกลับ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชน และเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแผน การเฝ้าระวังประชากรกลุ่มเสี่ยงที่จะดำเนินการต่อเนื่อง ได้แก่ ผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้ต้องขังแรกรับ ผู้ต้องกักแรกรับ และอาชีพเสี่ยง เช่น พนักงานในโรงงานผลิตอาหาร พ่อค้าแม่ค้า บุคลากรที่ทำงานกับผู้สูงอายุ พนักงานนวด พนักงานสถานบันเทิง โดยระหว่างวันที่ 18 พ.ค. - 22 มิ.ย. 2563 ได้ดำเนินการตรวจเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ 89,620 ราย ตรวจพบเชื้อ 1 รายเป็นผู้ป่วยเก่ารอผลตรวจ 8,257 ราย