นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก หลังการลงพื้นที่ตลาดหมู่ 7 คลอง 4 ย่านจังหวัดปทุมธานี เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เพียงแค่การที่ช่วยเหลือเพียงเรื่องของหน้ากากผ้าเท่านั้น แต่คือการได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนและความเห็นของพี่น้องอย่างชัดเจนกับตนเอง
โดยพี่น้องประชาชนที่อยู่ในละแวกนี้ มีตั้งแต่พี่น้องที่ทำงานในโรงงาน ในวันนี้งานก็หยุด ส่วนพี่น้องหลายคนก็เป็นเกษตรกรทำนาก็ยังทำนาอยู่ แต่รายได้หดหายไปอย่างมาก อีกทั้งถูกสภาวะนี้บีบให้ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาไปหลายคน ผลที่ทุกคนในพื้นที่เห็นชัดตรงกันก็คือ บรรยากาศของตลาดเงียบลงอย่างมาก ผู้คนหายไปจากเดิมถึงครึ่งตลาดทำให้ผู้ที่ยังค้าขายก็ซบเซาลงและขาดรายได้ไปจำนวนมาก
อย่างไรก็ดีหลายคนหวังให้พวกเราช่วยแก้ปัญหาให้ พวกเราก็จะทำอย่างสุดความสามารถภายใต้อำนาจหน้าที่ที่พวกเราพอจะมีครับ แต่ก็ต้องเรียนตามตรงว่าเมื่อได้เห็นรายละเอียดงบประมาณปีพ.ศ.2564 ที่รัฐบาลจะนำเข้าสภาในเดือน พ.ค.นี้แล้ว กลับทำให้รู้สึกว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มีความพยายาม ที่จะนำพาเอาความรู้สึกมั่นใจให้กับประชาชนที่จะต้องเผชิญวิกฤตได้เลย
ขณะที่งบประมาณปีพ.ศ.2564 นี้ ยังไม่ได้มีการปรับโครงสร้างอย่างจริงจัง งบประมาณยังคงถูกเขียนมาในลักษณะเดิม ไม่มีการปรับลดหรือตัดทอนการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากกองทัพ หน่วยงานต่าง ๆ ที่จะมีความสำคัญต่อการพาพี่น้องประชาชนรับมือและฝ่าวิกฤตครั้งนี้เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน หรืองบกลางที่อยู่ในส่วนของงบฉุกเฉินก็ไม่ได้มีเพิ่มเติมเข้ามาอย่างที่ควรจะเป็น สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการฝ่าวิกฤตครั้งนี้
ดังนั้นหากยังเป็นแบบนี้ มีแนวโน้มว่า งบกลางก็จะหมดลงอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็อาจไม่เพียงพอ นอกจากประกันสังคมและเงิน 5,000บาทที่จะใช้ในการดูแลคนเล็กคนน้อยแล้ว ก็ยังไม่มีสวัสดิการอื่นใดและเมื่อแก้การระบาดไม่ได้ จะทำให้ปัญหาที่มีวนซ้ำซากและอาจทวีความรุนแรงขึ้นได้อีก นี่เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องไฟป่า น้ำแล้ง ที่เจอซ้ำซากกันในทุกปีด้วยซ้ำ
" งบประมาณที่กำลังจะเข้าสภานี้ ไม่ได้ตอบโจทย์เหล่านี้ให้พวกเขาเลย ว่ากันตามตรง ผมมองไม่เห็นเลยว่ารัฐบาลนี้จะมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตนี้ผ่านงบประมาณ 2564 อย่างไร ผมหวังอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะมีการปรับงบประมาณปีพ.ศ.2564 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้นะครับ" รังสิมันต์ ระบุ
.