สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน จะขับเคลื่อนต่อ และจะทำอย่างเร่งด้วน โดยหลังจากนี้จะศึกษาและสรุปแผนที่ชัดเจนให้ได้ภายใน 30 เนื่องจากตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2680) หรือ พีดีพี 18 ฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 ที่ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องดำเนินการใหม่ทั้งหมด สามารถแทรกเฉพาะบางบทใน PPP ได้ ก่อนที่จะประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดำเนินการ ส่วนเรื่องของการรับซื้อ 100 หรือ 200 เมกะวัตต์ ขึ้นอยู่กับข้อเสนอและความพร้อมของผู้ประกอบการ เพราะต้องไปปลูก และต้องสร้างโรงงานด้วย เนื่องจากการทำโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อชุมชนที่ยั่งยืนต้องเกิดการหมุนเวียน คือ มีการปลูก ใช้ และมีการปลูกใหม่

ส่วนแนวนโยบายขับเคลื่อนพลังงานหลังจากนี้จะมี 3 เรื่องหลัก คือ พลังงานกระตุ้นเศรษฐกิจ พลังงานสร้างรายได้ และพลังงานสร้างรากฐานอนาคต โดยระยะสั้นในการลดค่าใช้จ่ายพลังงานในอดีตทั้งระยะที่ 1-4 จะมีการการทบทวนดูว่าจะดำเนินการต่ออย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในส่วนที่ยังจำเป็นและมีประโยชน์กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนระยะกลาง หรือ นโยบายการขับเคลื่อนไฟฟ้าจะยังเป็นรูปแบบการแข่งขันกิจการไฟฟ้า และเร่งรัดระบบการผลิตและยกระดับโครงข่ายไฟฟ้า เนื่องจากมีกำลังสำรองอยู่อีกมาก โดยจะผลักดันการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และภาคเอกชน ลดระดับโครงข่ายในระดับภูมิภาค นำไฟฟ้าที่เหลือไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าภายในระยะเวลา 1 ปีจะมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากต้องใช้เงินสูงและต้องมีการปรับกฎระเบียบบางอย่างด้วย

และนโยบาย บี10 และ บี20 จะยังอยู่แต่ต้องไปดูเรื่องรายละเอียดให้ลึกขึ้น ในเรื่องของวัตถุประสงค์ เช่น จะยกระดับรายได้เกษตรกรใช่หรือไหม พื้นที่เพาะปลูกเพียงพอหรือไม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเกษตรกรจะได้ประโยชน์จริงและให้เกิดความมั่นคงทางพลังงาน ดังนั้นยังต้องไปหารือหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องก่อน

นอกจากนี้กองทุนอนุรักษ์พลังงานจะมีการทบทวนวัตถุประสงค์ในปี 2564 ใหม่ โดยจะเน้นการจ้างงานสร้างรายได้และลดปัญหาผลกระทบเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ซึ่งจะมุ่งเน้นให้เกิดการเคลื่อนตัวหมุนเวียนผ่านกองทุนฯ แต่ยังคงต้องรักษาวัตถุประสงค์ที่มีไว้อย่างครบถ้วนด้วย

ส่วนเรื่องระยะยาวในประเด็นของธุรกิจกพลังงาน นวัตกรรม เทคโนโลยีพลังงาน การลดการผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ จะต้องมีความชัดเจนในการขับเคลื่อนพลังงานใหม่ ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ เพื่อให้เข้าสู่เสรีให้มากที่สุด ส่วนการทำงานและวิธีการทำงานของกระทรวงพลังงานหลังจากนี้จะเน้นในเรื่องของความรวดเร็ว มีข้อมูลที่ครบถ้วนและต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง