เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2563 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสถานการณ์โควิด 19 (ศปค.สธ.)มีมติให้ดำเนินการเพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในเทศกาลปีใหม่ ดังนี้ 1. ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทำแผนเตรียมความพร้อมรับมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์จังหวัดของตนเอง และสอดคล้องกับมาตรการ ศบค. กำหนด เช่น การเข้าจังหวัดให้ตั้งจุดคัดกรองวัดไข้ ไม่ให้ผู้ป่วยเข้าจังหวัด

2.พื้นที่ควบคุมสูงสุดให้งดการจัดกิจกรรมสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในพื้นที่เฝ้าระวังให้ลดการจัดกิจกรรมให้มากที่สุด หากจัดไม่ควรเกิน 100 คน เหมาะสมกับสถานที่เพื่อสร้างระยะห่าง กำหนด 1 คนต่อ 1 ตารางเมตร และต้องขออนุญาตจัดงาน

3. การจัดกิจกรรมเน้นผ่านระบบเสมือนจริง (Virtual) หรือระบบออนไลน์ 4. แรงงานต่างด้าวห้ามออกนอกพื้นที่ โดยขอให้อยู่ในที่พักในสถานประกอบการ

5. ให้ อสม. เคาะประตูบ้านให้ความรู้ประชาชน ดูแลจิตใจ ตรวจสอบคนแปลกหน้า แรงงานต่างด้าว

และ 6.ขอประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง เช่น สถานที่ลักลอบเล่นการพนัน

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดรอบใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อกระจายไปใน 45 จังหวัด บางจังหวัดพบผู้ติดเชื้อเพียง 1-2 ราย หรือ 5-10 ราย ไม่ได้ติดเชื้อทั้งจังหวัดและอยู่ในสถานการณ์ควบคุมได้ กรณี จ.สมุทรสาครจะควบคุมโรคให้การระบาดสิ้นสุดหรือเหลือน้อยที่สุดภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่ช่วงเวลาดังกล่าวคร่อมกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีการเดินทางจำนวนมาก มีการรวมตัวเฉลิมฉลอง ทำให้มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้อย่างดี จึงต้องมีมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถควบคุมโรคได้ จะทำให้การควบคุมโรคยากขึ้น โดยห้วง 4 สัปดาห์นี้จะหยุดการแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.สมุทรสาครให้ได้ ถ้าปีใหม่ควบคุมไม่ได้จะทำให้การควบคุมทำได้ยาก

นพ.เกียรติภูมิย้ำว่า เป้าหมายที่จะดำเนินการในช่วงปีใหม่นี้ ขอให้คนไทยงดเดินทางออกนอกจังหวัด งดออกจากบ้าน ถ้ามีการฉลองปีใหม่ให้ฉลองในครอบครัว ไม่ต้องฉลองคนเยอะๆหมู่มาก เพราะอาจมีการดื่มสุรา การละเล่น ตะโกน ทำให้เกิดการกระจายเชื้อ ยากต่อการควบคุมได้ จึงอยากให้อยู่ในจังหวัดของตัวเอง ซึ่งจะทำให้การควบคุมโรคง่าย ส่วนแรงงานข้ามชาติห้ามเดินทางออกนอกพื้นที่เพราะอาจเป็นผู้นำเชื้อได้ ให้พักที่ทำงานและโรงงาน

“อยากให้ประเทศไทยก้าวข้ามปีใหม่ด้วยความปลอดภัย ไม่มีผู้ใดติดเชื้อเพิ่ม ขอความร่วมมือทำตามมาตรการ คือ รักษาระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจรักษาเร็ว และสแกนไทยชนะ ส่วนมาตรการของภาครัฐจะดำเนินการอย่างเหมาะสม ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบในชีวิตประจำวันและเศรษฐกิจ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

ส่วน จ.ระยอง นั้นควบคุมให้มีการระบาดเป็นจุดเล็กๆ โดยจุดแพร่กระจาย จ.ระยองมีการเดินทางเข้ามาอาจแพร่เชื้อในกรุงเทพฯได้ ดังนั้น ต้องหยุดการเคลื่อนที่ของประชากรใน จ.ระยองก่อน 

นพ.เกียรติภูมิ ระบุว่าที่ประชุมยังกำชับให้รักษาระยะห่าง สแกนไทยชนะ รวมทั้งลดการเข้าสถานที่แออัด โดยเฉพาะการลักลอบเล่นการพนัน ช่วงนี้อยากให้ประชาชนลดกิจกรรมดังกล่าว ถ้าโรคลุกลาม ก็อาจมีมาตรการปิดสถานที่ต่างๆ หรือไม่ให้ออกนอกเคหสถานได้ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกันโรคและป้องกันการแพร่กระจายโรค ถ้าป้องกันได้ดีจะไม่มีการเข้มงวด จึงอยากให้ทุกคนใส่หน้ากากให้ได้ การใส่หน้ากากอนามัยเป็นวัคซีนประจำวัน

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดแยกคนในชุมชนศรีเมือง ตลาดกลางกุ้งจำนวน 4 พันรายที่กักกันโรคมาแล้ว 12 วัน โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม แยกพักใน 4 อาคาร ดังนี้

1.ผู้ติดเชื้อที่มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ติดเชื้อเกิน 10 วัน ผลการตรวจเลือดพบมีภูมิคุ้มกันแล้ว กรมควบคุมโรคจะออกหนังสือรับรอง สามารถใช้ชีวิตตามปกติ

2.ผู้ติดเชื้อแต่ยังไม่ครบ 10 วัน ตรวจไม่พบภูมิคุ้มกันถือว่ามีโอกาสแพร่เชื้อสู่คนอื่น

3.ผู้ที่ตรวจด้วยวิธี RT PCR ไม่พบเชื้อ ที่ยังอยู่ในระยะฟักตัวของโรค

4.ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ 

ผู้ป่วย 5 รายแรกของสมุทรสาครกลับบ้านได้แล้ว

สำหรับผู้ป่วย 5 รายแรกของสมุทรสาคร ขณะนี้พ้นระยะ 10 วันแล้วสามารถกลับบ้านได้ โดยรายของหญิงอายุ 95 ปีที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงสามารถหายใจได้เอง ไม่ต้องให้ออกซิเจน ไม่มีอาการทางปอด ถือว่าปลอดภัยหายดีแล้วไม่พบเชื้อ ส่วนปัญหาการมีแผลกดทับจาการนอนติดเตียงหลายปี ได้ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อาการดีขึ้น ไข้ลดลง ทั้งนี้ การตรวจพบผู้ติดเชื้อ 1 คน สิ่งที่ต้องดำเนินการ คือ ค้นหาผู้สัมผัสและแยกว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ โดยสามีภรรยา มีโอกาสติดเชื้อ 40-50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นคนในครอบครัวมีโอกาสติดเชื้อ 10 เปอร์เซ็นต์ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอื่นๆ มีโอกาสติดเชื้อ 3 เปอร์เซ็นต์ หากค้นหาผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้รวดเร็ว โอกาสที่จะเจอผู้ป่วยและควบคุมการระบาดได้ก็มีสูง การพบผู้สัมผัสมากและตรวจได้มาก จะลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อได้เร็ว 

ผู้ติดเชื้อในกทม.แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่

ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมในกรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 มีความเชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 70 ราย สูงสุดในเขตบางขุนเทียน 27 ราย เขตหนองแขม 7 ราย เขตบางแค 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่พื้นที่รอยต่อกับสมุทรสาคร กระจายตัวเป็นกลุ่มในชุมชน 61.4% มีอาการเพียงเล็กน้อย

กลุ่มที่ 2 โรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 เขตบางขุนเทียน ตรวจคัดกรองไปกว่า 400 ราย พบผู้ติดเชื้อ 7 ราย เป็นชาวไทย 1 ราย และชาวเมียนมา 6 ราย ทั้งหมดเป็นพนักงานรายวันในสายการผลิตเดียวกัน ซึ่งผู้ติดเชื้อรายแรกคือชายชาวเมียนมา เริ่มป่วยวันที่ 17 ธ.ค. 2563 โดยตรวจพบเชื้อปนเปื้อนอยู่ในพื้นผิวก๊อกน้ำ อ่างน้ำ ปัจจัยเสี่ยงในการแพร่โรคเกิดจากการปฏิบัติงานในสายการผลิตเดียวกันและการใช้ห้องน้ำร่วมกัน

และกลุ่มที่ 3 เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ได้รับรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้ว 22 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกของกลุ่มเป็นนักเที่ยวจาก จ.นนทบุรี ที่ได้รายงานมาแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร 3 ร้าน ได้แก่ ร้านอาหารอีสานกรองแก้ว ย่านปิ่นเกล้า ร้านแซ่บอีสานคาราโอเกะ ย่านเทเวศร์ และร้านน้องใหม่พลาซ่า ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งพบรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง 

“กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือนักเที่ยวทุกท่านที่ได้เข้าไปใน 3 ร้านดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 15-20 ธ.ค. 2563 ให้สังเกตอาการตนเองและพักอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันหากมีอาการสงสัยว่าป่วย ไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่นไม่ได้รับรส ให้สวมหน้ากากอนามัย ใช้รถส่วนตัว และไปรับการตรวจได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่ง พร้อมแจ้งความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ” นพ.วิชาญ กล่าว

แจ้งผู้ใช้บริการร้านอาหารบริเวณหลังพาต้าปิ่นเกล้าติดต่อกทม.

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ว่า เรื่องสำคัญที่ ศบค.กทม. ขอแจ้งให้ประชาชนทราบ คือ เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 ลักษณะเป็นกลุ่มก้อน จำนวน 8 ราย เป็นพนักงานในร้านอาหารอีสานกรองแก้ว และร้านน้องใหม่คาราโอเกะปิ่นเกล้าหรือร้านน้องใหม่พลาซ่า ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ใน ซ.อยู่ออมสิน บริเวณด้านหลังห้างพาต้าปิ่นเกล้า ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้แจ้งให้เจ้าของสถานที่ดังกล่าวปิดบริการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2563 และได้เข้าทำความสะอาดแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้(28 ธ.ค. 63) จึงขอให้ประชาชนที่ไปใช้บริการสถานที่ดังกล่าวระหว่างวันที่ 15-26 ธ.ค. 63 ติดต่อสำนักอนามัยโดยด่วน โทร. 0 2203 2393 หรือ 0 2203 2396 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรุงเทพมหานครจะให้คำแนะนำ หรือรับตัวมาตรวจหาเชื้อ เพื่อความปลอดภัยของท่าน ครอบครัว และคนใกล้ชิด รวมถึงเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดไปในวงกว้าง ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะข้อมูลของท่านจะเป็นความลับง

กทม.พบติดโควิดเพิ่ม 14 ราย

สำหรับวันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มเติม จำนวน 14 ราย โดย 11 ราย เป็นผู้ป่วยคนกรุงเทพฯ ส่วน 3 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนโรคว่าเป็นประชาชนจังหวัดใด สำหรับ Timeline ของผู้ป่วยที่สอบสวนโรคแล้วเสร็จอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเผยแพร่ ซึ่งประชาชนสามารถติดตามได้ใน Facebook แฟนเพจ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะเร่งเผยแพร่ให้ทราบต่อไป 

ในส่วนร้านอาหารที่สามารถเปิดบริการได้ ต้องมีลักษณะดังนี้ 1.ไม่มีพื้นที่เต้นรำ 2.ไม่มีการปรนนิบัติลูกค้า 3.ไม่มีบริการอาบ อบ นวด ยกเว้นบริการนวดแผนไทย หากมีการแสดงดนตรีสด ต้องไม่ให้นักร้อง นักแสดง นั่ง ร้อง เต้น กับลูกค้า และต้องไม่เป็นสถานสถานบริการ อาทิ ไม่เป็นสถานที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการโดยหวังประโยชน์ในทางการค้า ดังต่อไปนี้ สถานที่เต้นรำ รำวง หรือรองเง็ง เป็นปกติธุระประเภทที่มีและประเภทที่ไม่มีคู่บริการ สถานที่ที่มีอาหาร สุรา น้ำชา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายและบริการโดยมีผู้บำเรอสำหรับปรนนิบัติลูกค้า สถานอาบน้ำ นวด หรืออบตัว ซึ่งมีผู้บริการให้แก่ลูกค้า แต่ไม่รวมถึง สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล สถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย โดยจัดให้มีการแสดงดนตรีหรือการแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง ซึ่งปิดทำการหลังเวลา 24.00 น. เป็นต้น 

กรณีบ่อนการพนันย่านทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครได้ประสานเจ้าของสถานที่ทำความสะอาดสถานที่ โดยเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครได้ควบคุมการดำเนินงานเรียบร้อยแล้ว สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะต้องรอผลประมาณ 2 วัน ทั้งนี้ศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กักกันตัวที่บ้านแล้วด้วย ส่วนการดำเนินคดีเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ‘ประยุทธ์’ ย้ำไม่ล็อกดาวน์หลังปีใหม่หากทำตาม ศบค. - เตือน ขรก.โพสต์ชี้ช่องบ่อนพนัน
• 'อนุทิน' ไป 'กินกุ้งโชว์' ที่สมุทรสาคร ย้ำปลอดภัยเมื่อปรุงสุก
• เปิด 4 พื้นที่เสี่ยงสมุทรสาคร มีประวัติเดินทางต้องตรวจโควิด
• 'อนุทิน' ให้กำลังใจ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ติดโควิด-ผลตรวจตัวเองเป็นลบ กักตัว 14 วัน
• 'อนุทิน' กักตัวทำงานที่บ้าน สั่งทีมเข้มดูแลประชาชน-คุมราคาหน้ากาก