ไม่พบผลการค้นหา
ประธานกรรมาธิการการกฎหมายตั้งกรอบ 15 วันสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี “ตำรวจ-อัยการ” สั่งไม่ฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” เชื่อผลการสอบสวนนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรอบการพิจารณาสอบถามข้อเท็จจริงในกระบวนการไม่สั่งฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตนั้น กรรมาธิการจะพิจารณาคู่ขนานไปกับการตั้งคณะกรรมการสอบของอัยการและตำรวจ โดยอ้างอิงว่าประชาชนเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการการสอบทั้งตำรวจและอัยการว่าจะเป็นการช่วยเหลือกันเองหรือไม่ และกรรมาธิการจะซักถามในกระบวนการ พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอเอกสารรายละเอียดของสำนวนคดีเพื่อให้เกิดความชัดเจน 

นายสิระ ระบุว่า วันนี้ (29 ก.ค.2563) กรรมาธิการ เชิญ พล.ต.อ.ชนสิษฐ์ วัฒนวรางกูร รองผบ.ตร.และผู้ช่วยรอง ผบ.ตรอีก 2 คน รวมถึงตำรวจทำสำนวนคดีนี้ และนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เรายังมีขนาดที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกระบวนการสั่งไม่ฟ้องของอัยการมาร่วมด้วย และในสัปดาห์หน้าจะเชิญพยาน และตำรวจที่กลับคำให้การ ทนายความของบอส กรรมาธิการของ สนช. มาชี้แจง ต่อกรรมาธิการด้วย 

โดยยอมรับว่า การปรากฏตัวของพยานภายหลังสามารถเป็นไปได้ แต่พยานดังกล่าวนั้นจะเป็นพยานจริงหรือพยานเท็จ ตั้งข้อสังเกตว่าต้องการติดคุกแทนบอสหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คดีรื้อขึ้นมาใหม่ ตอนนี้กรรมาธิการจะศึกษาในรายละเอียดของบันทึกการประชุมหรือว่า ชวเลขและมติของคณะกรรมาธิการ สนช. มติเป็นทิศทางไหน ส่วนประเด็นข้อซักถามจะถามตั้งประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัย ยืนยันจะดำเนินการให้ดีที่สุดเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ 

สำหรับข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเองนั้น ด้วยเหตุว่ากรรมาธิการ สนช. ที่ลงมติความเห็นในรายงานคดีบอส ซึ่งเป็นเครือญาติของบุคคลในรัฐบาลนั้น นายสิระ ระบุว่าเป็นคณะกรรมาธิการ พร้อมกล่าวย้ำว่าต้องดูมติของคณะกรรมาธิการ ใครแสดงความเห็นอย่างไร หัวใจคือชวเลขที่บันทึก ไม่ใช่ตัวบุคคล ส่วนรัฐบาลนายกรัฐมนตรีได้ตั้งกรรมการขึ้นมาดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :