ที่รัฐสภา กลุ่มนักกิจกรรมและองค์กรความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย นำโดย นายเอกวัฒน์ พิมพ์สวรรค์และนายจรัญ มั่นคง ผู้ประสานงานกลุ่ม เข้ายื่นหนังสือถึงนางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส. ขอนแก่นพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการหรือกรมกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อขอให้ตอบรับข้อเสนอของภาคประชาสังคมเพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อการคุ้มครองการสมรสในครอบครัวเพศหลากหลาย
นายเอกวัฒน์ ระบุว่า กมธ.ชุดนี้มีบทบาทหน้าที่ตามกฎหมายที่ทำงานเพื่อปกป้องสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และเชื่อมั่นในกระบวนการรัฐสภา ซึ่งข้อเสนอมีสาระสำคัญคือ ขอให้แก้ไขกฎหมายครอบครัวมรดก ขยายสิทธิการสมรสโดยการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่เป็นกลางทางเพศ คือขอให้เปลี่ยนคำว่า "ชายและหญิง" เป็น "บุคคลสองคน", "สามีภริยา" เป็น "คู่สมรส", "บิดามารดา" เป็น "บุพการี" ในบทบัญญัติ เพื่อให้บุคคลทุกเพศทุกอัตลักษณ์และทุกรสนิยมทางเพศได้รับสิทธิความเสมอภาคและความยุติธรรมในสิทธิหน้าที่และศักดิ์ศรีจากการสมรส เหมือนคู่สมรสชายหญิงทั่วไป
ทั้งในสวัสดิการภาครัฐและเอกชน, สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน, สิทธิในการดำเนินการมีบุตร โดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ซึ่งการขยายสิทธิการสมรสดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิและหน้าที่ใดที่มีอยู่ในปัจจุบันของคู่สมรสชายและหญิงทั่วไป และไม่กระทบกับสิทธิหน้าที่ของบิดามารดาและบุตรในปัจจุบันแต่อย่างใด
ขณะที่ นางมุกดา กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย และเป็นครั้งแรกที่จะมีการผลักดันประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งใน กมธ.ฯ มี ส.ส.จากหลายพรรคการเมืองร่วมกันทำงานและเห็นพ้องกันว่า สิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์น่าจะเท่าเทียมกัน ดังนั้น ในฐานะประธาน กมธ.ฯ จึงยินดีและต้องลงมารับหนังสือด้วยตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้
