วันที่ 11 มิ.ย. 2563 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศ
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,125 ราย เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 681 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย วันนี้มีผู้รักษาหายเพิ่มขึ้น 6 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 2,987 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 80 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า หากจำแนกผู้ป่วยยืนยันตามพื้นที่ที่รักษามากสุด คือ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,746 ราย, ภาคใต้ 744 ราย, ภาคกลาง 429 ราย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย และภาคเหนือ 95 ราย โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 39 ปี
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งหมด 60 ราย เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและเข้าพักใน State Quarantine โดยกลับมาจากประเทศคูเวตมากสุด 28 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10 ราย ซาอุดีอาระเบีย 7 ราย อินเดีย 3 ราย ปากีสถาน 3 ราย ตุรกี 2 ราย รัสเซีย 2 ราย กาตาร์ 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย และเนเธอร์แลนด์ 1 ราย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 7,452,809 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 418,919 ราย โดยสหรัฐอเมริกามียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมมากสุด 2,066,401 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 115,130 ราย ขณะที่ประเทศบราซิลมีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มขึ้นมากถึง 33,100 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มเป็น 775,184 ราย ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยอยู่อันดับที่ 85 ของโลก
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า แม้จะไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม แต่ขอฝากให้ประชาชนคำนึงถึงหลักสุขอนามัย หากจะออกจากบ้านไปยังที่สาธารณะทุกครั้งควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยจะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อลงได้ร้อยละ 50 รวมถึงการพกเจลแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือ และรักษาระยะห่าง เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศ ขณะที่การใช้ Face shield อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะป้องกันเชื้อโรคได้ โดยขอให้ใช้หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเป็นหลัก