นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากการติดตามตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันนี้ (1 ก.พ. 2563) ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ระหว่าง 40-72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่จากเมื่อวานนี้ (31 ม.ค. 2563)
โดยพบมีเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดในระดับสีส้ม 46 พื้นที่ พบมีฝุ่นในระดับสูง 7 พื้นที่คือ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เขตลาดกระบัง เขตสวนหลวง เขตคลองเตย ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เขตยานนาวา และต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากมีลมสงบถึงลมอ่อนฝุ่นละอองจึงกระจายตัวได้น้อย ประกอบกับสภาพการจราจรหนาแน่นและติดขัดสะสมหลายเส้นทางทำให้ฝุ่นละอองเกิดการสะสมมากขึ้นโดยอยากให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้รถโดยสารสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนบุคคลช่วงวิกฤติฝุ่นนี้
ขณะที่สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ 9 จังหวัด วันนี้ (1ก.พ.) คุณภาพอากาศมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ระหว่าง 21-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ภาพรวมแนวโน้มค่าฝุ่นละอองลดลงในหลายพื้นที่จากเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) โดยค่าฝุ่น PM2.5 และ PM10 ลดลงจากระดับสีแดงลงมาอยู่ในระดับสีส้มแล้ว 11 พื้นที่ แต่ยังพบปัญหาไฟป่า หมอกควันที่เกิดจากการเผาในที่โล่งอยู่ โดยเฉพาะการเผาไร่อ้อยของเกษตรกรจึงขอความร่วมมือประชาชนหยุดและลดการเผาในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นละอองพุ่งสูงกระทบประชาชนในพื้นที่ได้รับอันตรายต่อสุขภาพ