'ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ' รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เทียบนโยบายรถไฟฟ้า ‘พรรคเพื่อไทย’ กับ ‘พรรคประชาชน’ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย @JomSuksit โดยระบุว่า
นโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นการดำเนินการตามที่เราได้หาเสียงไว้อย่างชัดเจน ปัจจุบันค่าโดยสารของประชาชนบนรถไฟฟ้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อคนต่อเที่ยว การลดลงมาเหลือ 20 บาท จะลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางกว่า 40%
แน่นอนว่านโยบายใดๆก็ต้องมีการใช้ทรัพยากรของรัฐในการสนับสนุน แต่หลักการคือผลประโยชน์ที่จะได้ต้องสูงกว่างบประมาณที่ใส่ลงไป ในคราวนี้การลดการใช้รถส่วนตัวจะช่วยเรื่องปัญหาความหนาแน่นของจราจรได้ ลดการใช้พลังงานได้ ลดเวลาการเดินทางเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ลดปัญหามลภาวะทางอากาศได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลกระทบที่เป็นบวกที่ขยายออกไประดับประเทศทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้เราได้ทำการปรับค่าโดยสารของสายสีแดง (รฟท.) และสายสีม่วง (รฟม.) ลงเหลือ 20 บาทตลอดสาย หลังจากการดำเนินการมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมากจนสามารถลดส่วนต่างของรายได้ลงอย่างมีนัยยะ แสดงให้เห็นว่ามีประชาชนได้รับประโยชน์จำนวนมาก ในคราวนี้เราจึงจะขยายนโยบายออกไปให้ครอบคลุมทุกสาย 286 กิโลเมตร 193 สถานี โดยที่คาดการณ์ว่าผู้โดยสารจะมากขึ้นประมาณ 30% จากประมาน 1.6 ล้านคน - เที่ยว/วัน เป็น 2.1- 2.2 ล้านคน-เที่ยว/วัน
เงินงบประมาณที่จะสนับสนุนอยู่ที่ประมาน 5,500 ล้านบาทต่อปี คำนวนคร่าวๆแปลว่าเราสนับสนุนงบประมาณให้ประชาชนจะอยู่ประมาณที่ 7 บาทต่อคน-เที่ยว/วัน (5,500/2.1x365) อย่างไรประโยชน์ก็มากกว่าค่าใช้จ่ายแน่อน
และสำหรับสายสีน้ำเงิน ม่วง เหลือง และชมพู (รฟม.) และสายสีเขียว (กทม.) ก็ยังจะต้องมีการ "เจรจา" กับผู้ได้รับสัมปทานอย่างเหมาะสม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายได้มากที่สุด เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารและข้อตกลงระดับการให้บริการจะเปลี่ยนไปจากสัญญาเดิม ซึ่งเราคาดหวังว่าผู้รับสัมปทานจะเห็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนเช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ชัดว่าหลักการในการดำเนินการคือต้องการให้ประชาชนได้รับประโยชน์ทันทีโดยที่ "การเจรจา" ที่หาเสียงไว้ก็ยังดำเนินการอยู่เหมือนเดิม
อันนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการสร้างนโยบายให้เกิดขึ้นจริง ประชาชนได้รับประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่มาสร้างวาทกรรมว่าจะรื้อนู่นทำลายนี่ ชี้หน้าด่าเอกชนว่าเป็นผู้ร้ายนายทุน ทำให้รัฐมีความเสี่ยงต้องถูกฟ้องร้อง หรือมานั่งดูถูกประชาชนที่จะได้รับประโยชน์ว่า "คนกินสุกี้ย่อมชอบ" โดยไม่ได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องแบกภาระการเดินทาง ผจญกับรถติด ดมกลิ่นควัน ทำไมเหรอครับประชาชนที่มาจากทั่วประเทศมาหาโอกาสทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศจะไม่มีสิทธิได้กินดีอยู่ดีบ้างหรือครับ?
โดย 'นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ' รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์อธิบาย เพื่อตอบโต้ สส. ฝ่ายค้าน พรรคประชาชน หลายคน ที่แสดงความเห็นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและ ไม่ออกเสียงสนับสนุน ร่างกฎหมายผลักดัน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยตั้งแต่วาระแรก ขณะที่นโยบายดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเห็นได้ชัด
และโดยเฉพาะความเห็นของ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ที่ออกมาระบุว่า #20บาทตลอดสาย นโยบายไร้ฐานคิด. ตอบมาให้ได้ก่อนว่าทำไม 20, ไม่เป็น 5 หรือ 35 บาท หรือเท่าไหร่จึงเหมาะสม? และโพสต์ว่า
ขณะที่ในแฟนเพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกลก็ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลเทียบนโยบายรถไฟฟ้า ระหว่าง ‘พรรคเพื่อไทย’ กับ ‘พรรคประชาชน’ ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นนโยบายใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐเช่นเดียวกัน แต่กลับใช้ข้อความเปรียบเทียบในการให้เหตุผลจากความเห็นของ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ
นอกจากนี้ สส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้โพสต์ชี้แจงถึงนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย โดยย้ำว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายไม่ได้เอื้อนายทุน แต่เป็นนโยบายที่มุ่งลดภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะค่าโดยสารของพี่น้องประชาชนใช้บริการคมนาคมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งยังช่วยลดปัญหา PM 2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพประชาชนด้วย